อินเตอร์เรียลตี้ฯ ชี้สำนักงานที่ดินจัดบริการไม่สอดคล้อง กม.จัดสรร กระทบการจดทะเบียนนิติบุคคลฯ ล่าช้า เหตุไม่แต่งตั้งอนุกรรมการรองรับความต้องการ ย้ำโครงการจัดสรรใหม่ที่จัดประชุมเพื่อจดทะเบียนหลังวันที่ 27 พ.ค.59 มีปัญหา เพราะไม่ผ่านการตรวจสอบสาธารณูปโภคจากภาครัฐ
นายธนันทร์เอก หวานฉ่ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (IRM) กล่าวว่า การจดทะเบียนนิติบุคคลบ้านจัดสรรตามกฎหมายที่ดินฉบับเดิมในช่วงที่ผ่านมา ได้ระบุให้ผู้จัดสรรต้องดูแลสาธารณูปโภคครบ 1 ปี แล้วแจ้งให้ผู้ซื้อจัดประชุมเพื่อแต่งตั้งนิติบุคคล และผู้จัดสรรจะต้องให้ผู้ซื้อตรวจสอบความเรียบร้อยต่างๆ หลังจากนั้น ผู้จัดสรรจึงทำการโอนสาธารณูปโภค เงินกองทุน 7% และเงินค่าส่วนกลางที่เก็บล่วงหน้าที่ยังใช้ไม่หมดให้กับนิติบุคคลบ้านจัดสรร แต่หลังจากที่มีการประกาศใช้ระเบียบจัดสรรที่ดินฉบับใหม่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา ผู้ซื้อไม่สามารถตรวจสอบสาธารณูปโภคได้อีกต่อไป เนื่องจากกฎหมายระบุให้ผู้จัดสรรจะต้องแจ้งคณะกรรมการจัดสรรที่ดินให้แต่งตั้งอนุกรรมการทำหน้าที่ตรวจสอบแทน หลังจากนั้น ผู้จัดสรรต้องแจ้งให้ผู้ซื้อจัดประชุม เพื่อจัดตั้งนิติบุคคลบ้านจัดสรร และสาธารณูปโภคต่างๆ จะถูกโอนเป็นของนิติบุคคลโดยอัตโนมัติ เพราะมีอนุกรรมการทำหน้าที่ตรวจสอบในเบื้องต้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม นักบริหารทรัพย์สินและผู้จัดสรรส่วนใหญ่เพิ่งทราบรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายฉบับใหม่เมื่อเดือนกรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ทำให้ผลการประชุมเพื่อจัดตั้งนิติบุคคลที่ดำเนินการไปแล้วไม่สามารถนำมาใช้ได้ เนื่องจากทางสำนักงานที่ดินไม่ยอมรับผลการประชุมของโครงการต่างๆ ที่คณะกรรมการจัดสรรที่ดินไม่ได้แต่งตั้งอนุกรรมการไปตรวจสอบระบบสาธารณูปโภคของโครงการก่อนการประชุม ดังนั้น ทุกโครงการที่ต้องการจดทะเบียนนิติบุคคลบ้านจัดสรรหลังจากวันที่ 27 พฤษภาคม 2559 จะต้องแจ้งให้คณะกรรมการจัดสรรที่ดินไปตรวจสอบก่อน
นายธนันทร์เอก กล่าวว่า หลังจากที่ผู้จัดสรร และนักบริหารทรัพย์สินไปแจ้งสำนักงานที่ดินให้มาตรวจสอบสาธารณูปโภคตามกฎหมายใหม่ ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้สำนักงานที่ดินทั่วประเทศยังไม่ทราบว่าจะต้องแต่งตั้งอนุกรรมการเข้าไปทำหน้าที่ดังกล่าวตามกฎหมายใหม่ ทำให้ไม่สามารถจดทะเบียนนิติบุคคลได้ และเกิดผลกระทบต่อผู้จัดสรรที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมคณะกรรมการหมู่บ้านอีกครั้ง หากจัดประชุมใหม่อาจทำให้ลูกบ้านไม่เข้าใจ และไม่ต้องการร่วมประชุมอีก ที่สำคัญจะต้องรอให้กรมที่ดินแต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบตามขั้นตอนกฎหมายใหม่ ทำให้เกิดความล่าช้าในการจดทะเบียนนิติบุคคลบ้านจัดสรร
ทั้งนี้ เนื่องจากมีโครงการต่างๆ ต้องรอคิวจดทะเบียนจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรจำนวนมาก เช่น เชียงใหม่ โคราช ขอนแก่น อุดรธานี รวมทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพราะเชื่อว่าทุกโครงการที่จัดประชุมหลังวันที่ 27 พฤษภาคม 2559 จะได้รับผลกระทบ และมีปัญหาในการจดทะเบียนนิติบุคคลบ้านจัดสรร ดังนั้น กรมที่ดินควรมีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานที่ดินทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อทราบวิธีการปฏิบัติตามระเบียบจัดสรรที่ดินฉบับใหม่ สำหรับรองรับความต้องการของโครงการจัดสรรที่ต้องการจดทะเบียนนิติบุคคล เพราะจากที่ไปสอบถามสำนักงานที่ดินแต่ละแห่ง ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบ และยังไม่ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ หรือผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อทำหน้าที่ดังกล่าว ทำให้การจดทะเบียนนิติบุคคลบ้านจัดสรรช่วงนี้ต้องล่าช้าออกไป