xs
xsm
sm
md
lg

อีสเทิร์นโพลีเมอร์ฯ เตรียบงบกว่า 2 พัน ล. ลุย 3 ธุรกิจหลัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป ตั้งเป้ารายได้ปี 59/60 แตะ 10,000-11,000 ล้านบาท พร้อมตั้งงบกว่า 2,000 ล้านบาท เสริมแกร่งทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ หลังยอดคำสั่งซื้อทะลัก เล็งเข้าซื้อกิจการธุรกิจยานยนต์เสริมทัพธุรกิจ หลังการเข้าซื้อ TJM เมื่อมีนาคมปีที่ผ่านมา

นายภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์ และพลาสติกแปรรูปชั้นนำของโลก เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2559/2560 (เม.ย.59-มี.ค.60) ว่า EPG ยังคงให้ความสำคัญต่อการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างสรรค์ และพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพป้อนสู่ตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง โดยภายใน 2 ปี (ปี 2016/17 และปี 2017/18) บริษัทได้ตั้งงบลงทุนเพื่อพัฒนา และเพิ่มศักยภาพใน 3 กลุ่มสินค้า ประมาณ 1,000 ล้านบาท

ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex ตั้งงบลงทุนประมาณ 280 ล้านบาท เพื่อการวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และพัฒนาศักยภาพการผลิต โดยใช้เครื่องจักรระบบออโตเมชันที่มีความเร็วสูง ทั้งในประเทศไทย และประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อลดต้นทุนการผลิตกลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas ตั้งงบลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท เพื่อลงทุนในระบบพ่นสี และขยายโรงงานการผลิต กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP ตั้งงบลงทุนประมาณ 310 ล้านบาท เพื่อลงทุนตั้งในโรงงานผลิตแห่งใหม่ในกลุ่มอาเซียน โดยใช้โรงงานผลิต EPP 2 เป็นต้นแบบในการผลิต โดยใช้เครื่องจักรระบบออโตเมชันที่มีความเร็วสูง

นอกจากนี้ บริษัทได้จัดสรรงบประมาณสำหรับการซื้อกิจการ และการร่วมลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งใน และต่างประเทศ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มบริษัท

นายภวัฒน์ กล่าวต่อว่า ความคืบหน้าการดำเนินงานปี 2559/2560 ในส่วนของฉนวนกันความร้อน/เย็น Aeroflex ปัจจุบันมี Backlog ในประเทศ ประมาณ 500 ล้านบาท จากกลุ่มลูกค้าค้าส่ง และลูกค้าโครงการ และจะเพิ่มสัดส่วนการทำตลาดประเทศในกลุ่มอาเซียนมากยิ่งขึ้น ขณะที่ชิ้นส่วนอุปกรณ์ และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ Aeroklas และ TJM มีแผนจะส่งสินค้าใหม่หลายรายการ เช่น Black widow drawers เพื่อทำตลาดในประเทศออสเตรเลีย และ Aeroklas อยู่ระหว่างเจรจากับค่ายรถยนต์เพื่อร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น Canopy และ Van-liner รวมถึงเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในทวีปยุโรป และทวีปโอเชียเนีย ขณะที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP จะขยายตลาดไปยังกลุ่มอาเซียน ที่มีประชากรกว่า 620 ล้านคน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่สำคัญที่จะทำให้ธุรกิจ EPP เติบโตมากยิ่งขึ้น

นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานในปีนี้ EPG ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ประมาณ 10,000-11,000 ล้านบาท หรือเติบโต 15-25% จากผลประกอบการในปี 2558/2559 (เม.ย.58-มี.ค.59) ที่บริษัทมีรายได้รวมถึง 8,769 ล้านบาท โดยแผนการตลาดในปีนี้ EPG จะเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการส่งออก และรายได้จากบริษัทย่อย และบริษัทร่วมในต่างประเทศเป็น 70% ในปี 2560/2561 จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 62%

“ตัวเลข 10,000-11,000 ล้านบาท เราคิดบนพื้นฐานของเศรษฐกิจของประเทศเติบโตประมาณ 3-3.5% และเศรษฐกิจของโลกเติบโตประมาณ 2.9% ส่งผลต่อการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ และการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจ EPG โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ การหมดช่วงระยะเวลาโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรกจะเป็นอีก 1 ตัวกระตุ้น ที่ส่งผลดีต่อธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์ และตกแต่งยานยนต์ของ Aeroklas เพิ่มมากขึ้น” รศ.ดร.เฉลียว กล่าว

สำหรับผลประกอบการในปี 2558/2559 (เม.ย.58-มี.ค.59) บริษัทมีรายได้รวมสูงถึง 8,769 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 8,500-9,000 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 6,916 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,853 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 27%) มีกำไรสุทธิรวม 1,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123% เมื่อเทียบปีก่อนที่มีกำไรสุทธิรวม 634 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 16.1%

ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะชิ้นส่วนอุปกรณ์ และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ Aeroklas มียอดขายสูงถึง 3,605 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากธุรกิจหลัก ได้แก่ พื้นปูกระบะ (Bed Liner) หลังคารถกระบะ (Canopy) ฝาครอบรถกระบะ (Deck Cover) และรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ บันไดข้างรถ (Side Step) รวมถึงการขยายธุรกิจใหม่ในประเทศออสเตรเลีย (TJM) ด้านธุรกิจฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ Aeroflex มียอดขาย 2,597 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13% จากทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากภาพรวมของเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาฟื้นตัวขึ้น ทั้งด้านการบริโภค และการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน

ขณะที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP มียอดขาย 2,563 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16% เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว ทำให้อัตราการบริโภคของประชาชนเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน EPP เพิ่มกำลังการผลิตจากการสร้างโรงงานแห่งที่ 2 เพื่อรองรับการความต้องการของตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558


กำลังโหลดความคิดเห็น