xs
xsm
sm
md
lg

อาปิโกฯ คงเป้ารายได้ปีนี้โต 5%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

อาปิโก ไฮเทค คงเป้าการเติบโตของรายได้ปีนี้ 5% เหตุรับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่ต่อเนื่อง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่ม ดันกำไรรวมเติบโต อ่อยไตรมาส 2 อาจนิ่งเหตุโลว์ซีซัน เผยอยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุน หรือซื้อกิจการกับพันธมิตรต่างประเทศในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ 2 ราย คาดสรุปได้เร็วๆ นี้

นายเย็บ ซู ชวน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ปี 59 จะเติบโตได้ราว 5% จากปีก่อนที่ทำได้ราว 1.5 หมื่นล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่คาดจะเติบโตได้ 5% หรือมียอดการผลิตรถยนต์อยู่ที่ 2 ล้านคัน จากปีก่อนอยู่ที่ 1.9 ล้านคัน ขณะที่ยอดการผลิตในช่วงไตรมาสแรกอยู่ที่ 5.06 แสนคันแล้ว

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหญ่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากค่ายรถยนต์ Isuzu, Nissan และโครงการร่วมทุนระหว่าง Ford และ Mazda เป็นต้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จะอยู่ที่ 6-7% และมีผลต่ออัตรากำไรสุทธิของบริษัทที่จะดีขึ้นตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น

“ปีนี้เรายังคงเป้าเติบโต 5% ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยสัดส่วนรายได้จะมาจากต่างประเทศ 20% และในประเทศ 80% ซึ่งเรายังได้รับผลดีจากยอดคำสั่งซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากลูกค้าหลักที่สามารถ maintain มาร์เกตแชร์ไว้ได้” นายเย็บ ซู ชวน กล่าว

นายเย็บ ซู ชวน กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้ ซึ่งมองว่าน่าจะลดลงจากไตรมาสแรก เนื่องจากเป็นช่วงของโลว์ซีซันของธุรกิจ และมีวันหยุดยาวหลายวัน แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทได้ออกแอปพลิเคชันเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าออนไลน์ และสนับสนุนยอดขายในช่วงโลว์ซีซัน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี พร้อมกับวางงบลงทุนปีนี้ไว้ราว 300-400 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักรการผลิต โดยในไตรมาสแรกใช้ไปแล้ว 50 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ก็อยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุน หรือซื้อกิจการกับพันธมิตรต่างประเทศ จำนวน 2 ราย ได้แก่ มาเลเซีย และอินเดีย ในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศเพิ่มเติม และร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ จากปัจจุบันมีตลาดต่างประเทศแล้วที่ จีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะสรุปได้เมื่อใด ซึ่งมองศักยภาพในการเข้าลงทุนจะอยู่ระดับไม่เกิน 2 พันล้านบาท โดยบริษัทฯ มีความพร้อมด้านการเงินจากหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 0.4 เท่า


กำลังโหลดความคิดเห็น