xs
xsm
sm
md
lg

“พรสันติ” มั่นใจยอดขายตามเป้า 1,500 ล้านบาท อานิสงส์ลูกค้าคอนโดฯ ติดใจบริการหันซื้อบ้าน 30-40%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

จรัญ เกษร
“พรสันติ” ในเครือ LPN มั่นใจยอดขายปี 59 ตามเป้า 1,500 ล้าน ระบุอานิสงส์ 30-40% เป็นลูกค้าคอนโดฯ LPN หันซื้อบ้านหลังติดใจบริการลุมพินีชุมชนน่าอยู่ พร้อมเดินหน้าเปิด 4 โครงการใหม่ในครึ่งปีหลัง ชูจุดขาย “บ้านลุมพินีบ้านน่าอยู่” เผย 4 เดือนยอดขายเกือบ 600 ล้านบาท

นายจรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรสันติ จำกัด ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ยังมีบางทำเลที่ดี และได้รับความนิยมยังคงมียอดขายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบัน ตลาดถือเป็นของผู้ซื้อที่ผู้ประกอบการต่างอัดแคมเปญ ลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาของปี ตลาดอสังหาฯ จะชะลอตัว แต่บริษัทยังสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 500-600 ล้านบาท ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นยอดขายโครงการใหม่ๆ ของบริษัท สะท้อนว่าจะมีความต้องการซื้อจากผู้บริโภค นอกจากนี้ บริษัทยังได้อานิสงส์จากลูกค้าคอนโดมิเนียมของ LPN มากถึง 30-40% ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบหลักของบริษัท เพราะปัจจุบัน LPN มีลูกค้าคอนโดฯ กว่า 1 แสนครอบครัว หรือราว 1.8 แสนคน ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้เมื่ออยู่ในคอนโดฯ ใช้ชีวิตแบบคนเมืองนานเข้าเริ่มมีครอบครัว มีลูก ครอบครัวขยายใหญ่ขึ้นก็ต้องการหันไปซื้อบ้าน

ทั้งนี้ ลูกค้ากว่า 30-40% มาจากลูกค้าคอนโดฯ ของ LPN ที่ติดใจการให้บริการ การบริหารจัดการภายใต้ “ลุมพินีชุมชนน่าอยู่” ซึ่งลูกค้าต่างยอมรับในคุณภาพการให้บริการ และบริหารจัดการชุมชนที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่โครงการ และการใช้ชีวิตและเมื่อครอบครัวขยายต้องการอยู่บ้าน จึงตัดสินใจเลือกซื้อบ้านของพรสันติ ซึ่งพรสันติ พร้อมที่จะให้บริการ บริหารโครงการภายใต้สโลแกน “บ้านลุมพินีบ้านน่าอยู่” ที่พัฒนามาจากการให้บริการของคอนโดฯ และปรับให้เข้ากับบ้านแนวราบ

“เราอาศัยบุญเก่าจากลุมพินีเยอะ คำว่า “ลุมพินี” มันเป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพชีวิตที่ดีของคนที่อยู่อาศัยในประชาคมลุมพินี มั่นใจว่าเราดูแลเขาได้ คอนโดฯ ใช้เวลากว่า 20 ปี ในการสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า และบอกต่อๆ กัน ทำให้ 50% เป็นลูกค้าบอกต่อ แต่สำหรับบ้านคงไม่นานถึงขนาดนั้นเพราะเราต้นแบบจากชุมชนน่าอยู่มาแล้วขอเวลา 5-6 ปีทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง ซึ่งปัจจุบันเรามี 600 ครอบครัว จาก 6 โครงการที่อยู่ในบ้านลุมพินี” นายจรัญ กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ 2559 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ จากแผนทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งในช่วงต้นปีเปิดไปแล้ว 1 โครงการ ปัจจุบัน มีที่ดินแล้ว 70% ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดิน โดยเน้นที่บ้านระดับราคา 3 ล้านบาทบวกลบ เป็นทาวน์เฮาส์ราคาประมาณ 3 ล้านบาท กระจายใน 4 ทำเล ได้แก่ นครอินทร์ เทพารักษ์ ลำลูกกา และพระราม 2

ส่วนเป้าหมายการดำเนินงานปีปีนี้มียอดขาย 1,500 ล้านบาท เติบโต 50% จากปี 2558 ที่มียอดขาย 1,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ 1,200 ล้านบาท ปัจจุบัน สามารถสร้างยอดขายได้แล้ว 500-600 ล้านบาท

นายจรัญ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วง 5-6 ปีแรก บริษัทตั้งเป้ามีรายได้จากพรสันติ สัดส่วน 10% ของกลุ่ม ในขณะที่ปัจจุบัน LPN มีรายได้จากคอนโดฯ 16,000-17,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน พรสันติ ถือว่ามีสัดส่วน 7-8% โดยคาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 ปีก็จะสามารถเพิ่มสัดส่วนเป็น 10% ได้

อย่างไรก็ตาม บ้านถือว่ามีโอกาสในการเติบโตได้สูงกว่าคอนโดมิเนียมที่มีข้อจำกัดเรื่องของทำเล ความหนาแน่ของประชากร ความต้องการซื้อ ในขณะที่บ้านแนวราบสามารถกระจายการลงทุนออกไปได้ทั่วประเทศหากมีความต้องการ และไม่จำเป็นต้องพัฒนาทีเดียวทั้งโครงการสามารถแบ่งเฟสการพัฒนาได้ นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญต่อระบบการก่อสร้างสำเร็จรูป

นายจรัญ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มตลาดอสังหาฯ ในปีนี้เชื่อว่ามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากช่วงที่ผ่านมาที่ตลาดชะลอตัว แต่คาดว่าตลาดจะดีจริงในช่วงกลาง-ปลายปีหน้า โดยบริษัทได้วางแผนรองรับกับภาวะที่เกิดขึ้นด้วยการเปิดโครงการกระจายในหลายทำเล พัฒนาโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก ขายก่อนสร้าง เน้นการก่อสร้างแบบสำเร็จรูปมากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น