“ไออาร์พีซี” ตั้งเป้าปีนี้ฟันกำไรทุบสถิติอีกปี หลังโครงการ UHV เสร็จกลาง พ.ค. โครงการเอเวอร์เรสและเลื่อนการปิดซ่อมบำรุงใหญ่เป็นไตรมาส 1/60 เผยขณะนี้ราคาปิโตรเคมีเริ่มขยับดีขึ้นตามทิศทางน้ำมันที่เริ่มไต่ขึ้น เตรียมออกหุ้นกู้และกู้เงินรวม 2 หมื่นล้านบาทเพื่อใช้คืนหนี้ที่ครบกำหนดในปีหน้า
นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯมั่นใจว่าจะมีกำไรสูงขึ้นกว่าปีก่อนที่มีกำไร 9,401.76 ล้านบาททุบสถิติสูงสุด เนื่องจากโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (UHV) เดินเครื่องเชิงพาณิชย์กลางเดือน พ.ค.นี้ ทำให้โรงกลั่นเดินเครื่องจักรเพิ่มขึ้นเป็น 1.9-2 แสนบาร์เรล/วัน จากเดิมที่กลั่นอยู่ 1.7-1.8 แสนบาร์เรล/วัน และโครงการเอเวอร์เรสที่คาดว่าจะทำให้กำไรเบื้องต้นเพิ่มขึ้น 3.4 พันล้านบาทหรือประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ปรับแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่จากเดิมไตรมาส 4/2559 เลื่อนเป็นไตรมาส 1/2560 เป็นเวลา 30-45 วัน เนื่องจากโครงการ UHV เพิ่งแล้วเสร็จเดือน พ.ค.นี้ จึงเร็วเกินไปที่จะต้องหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ในปลายปี จึงตัดสินใจได้เลื่อนไปเป็นไตรมาส 1/2560 แทน มิฉะนั้นจะต้องปิดซ่อมบำรุง 2 ครั้ง โดยบริษัทมั่นใจว่าจะไม่มีผลขาดทุนในไตรมาส 1/2560 แม้ว่าจะเป็นช่วงปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นแต่โรงปิโตรเคมียังผลิตอยู่ ส่งผลค่าการกลั่นรวมเฉลี่ย (GIM) ไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันในปีนี้สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ระดับ 14 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพราะโครงการ UHV จะเพิ่มมาร์จินได้ไม่น้อยกว่า 1-2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ส่วนความคืบหน้าโครงการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) อีก 3 แสนตัน/ปีจะแล้วเสร็จในกลางปี 60 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเม็ดพลาสติก PP เพิ่มเป็น 7.75 แสนตัน/ปี ขณะนี้โครงการดำเนินการความคืบหน้าแล้ว 32% เมื่อแล้วเสร็จจะทำให้ธุรกิจปิโตรเคมีของบริษัทเข้มแข็งขึ้น
นายสุกฤตย์กล่าวต่อไปว่า ทิศทางน้ำมันในปีนี้คาดว่าจุดสมดุลระหว่างปริมาณการผลิตและความต้องการใช้น้ำมันจะเร็วขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะเห็นในปี 2560 เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันจากกลุ่มประเทศนอกโอเปกลดลงเรื่อยๆ และการลงทุนสำหรับการเจาะหลุมผลิตเพิ่มเติมก็ลดลง ดังนั้น หากราคาน้ำมันยืนอยู่ระดับที่ 40 กว่าเหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เชื่อว่าไตรมาสนี้บริษัทฯ จะมีกำไรสต๊อกน้ำมัน จากไตรมาส 1 ขาดทุนสต๊อกน้ำมันและการทำประกันความเสี่ยงรวม 1.3 พันล้านบาท
ส่วนธุรกิจปิโตรเคมีมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ทยอยปรับราคาสูงขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นสูงในช่วงนี้ ด้านธุรกิจการกลั่นนั้นพบว่าราคาเบนซินปรับตัวลงค่อนข้างมาก ทำให้ค่าการกลั่น (GRM) ต่ำลง แต่ก็คาดว่าจะน่าจะดีขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูการท่องเที่ยวสหรัฐฯ ทำให้ความต้องการใช้เบนซินเพิ่มขึ้น
นายสุกฤตย์กล่าวต่อไปว่า ในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า บริษัทฯ มีแผนจะออกหุ้นกู้ 1 หมื่นล้านบาท และกู้เงินแบบซินดิเคทโลนอีก 1 หมื่นล้านบาท เพื่อคืนหนี้ที่ครบกำหนดชำระในปี 2560 จำนวน 1.9 หมื่นล้านบาท หลังจากบริษัทได้ทยอยนำเงินสดจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นมาชำระคืนหนี้เงินกู้ระยะสั้น และร่นระยะเวลาการจ่ายค่าน้ำมันดิบกับ ปตท.จาก 90 วัน เหลือ 60 วัน ทำให้เครดิตเรตติ้งของไออาร์พีซีเข้าสู่ระดับ Investment Grade
