xs
xsm
sm
md
lg

คาด SET จะได้แรงหนุนจากการทำ Window Dressing ปิดงบไตรมาส 1/2559

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล.โกลเบล็ก เชื่อดัชนีหุ้นไทยจะได้แรงหนุนจากการทำ Window Dressing ปิดงบไตรมาส 1/2559 บวกกับการที่เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด และมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้น 4 ครั้ง โดยมีแรงกดดันจาก Fund Flow ที่ชะลอตัว ด้านราคาทองคำมีแนวโน้มขึ้นช่วงสั้นก่อนปรับตัวลง

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยมีแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25%-0.50% ตามคาด และการปรับลดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยตลาดคาดว่า เฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ อีกปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทย ได้แก่ การทำ Window Dressing ปลายเดือนมีนาคมที่จะปิดงวดงบการเงินไตรมาสที่ 1/2559

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยก็ยังคงมีจาก P/E SET ขึ้นมาที่ระดับสูงราว 20 เท่า จึงมีความเสี่ยงปรับฐาน และปัจจัยจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลงหลังจากกำหนดการประชุมลดกำลังการผลิตของประเทศผู้ผลิตรายใหญ่เลื่อนจาก 20 มีนาคม ไปเป็น 17 เมษายน ขณะที่อิหร่าน ประกาศชัดเจนว่าจะไม่เข้าร่วมการประชุมเป็นปัจจัยลบกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน

ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง Fund Flow ที่ชะลอตัวหลังจากตอบรับการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ใช้มาตรการ QE เพิ่มเติมไปแล้ว รวมถึง P/E SET ขึ้นมาถึงระดับ 20 เท่า จึงมีความเสี่ยงที่จะปรับฐาน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีแรงซื้อดัก Window Dressing ไตรมาส 1/2559 ในจังหวะที่ย่อตัว

ดังนั้น คาดว่า SET จะแกว่งตัว 1,360-1,400 จุด แนะนำรอซื้อช่วงอ่อนตัวในกลุ่มที่มีปัจจัยบวก แนะนำ KSL, BRR จากราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้นปรากฏการณ์เอลนีโญ่ และภาวะภัยแล้ง กลุ่มอสังหาฯ แนะนำ PS, LPN, SENA ที่จะเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ที่คาดว่าจะเสนอเข้า ครม.อังคารหน้า (22 มี.ค.) และกลุ่มที่คาดว่ากำไรปี 2559 เติบโตขึ้น ได้แก่ BEM, TOP, IRPC, KCE, BIG, XO, PTG

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับตัวลงจากแรงกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น หลังจากที่ นายเอิร์กกี ไลคาเนน สมาชิกสภาบริหาร ECB เผยว่า ECB ยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเหลืออยู่ และจะนำมาใช้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ส่งผลให้ค่าเงินยูโรกลับมาอ่อนค่า บวกกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการลดอัตราดอกเบี้ย และเพิ่มวงเงินการซื้อพันธบัตรสู่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน จากเดิม 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ทำให้เงินลงทุนบางส่วนย้ายออกจากตลาดทองคำไปยังตลาดหุ้น รวมถึงแรงขายของนักลงทุนก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะประชุมเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 16 มีนาคมนี้ ตามเวลาสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม การที่เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาด บวกกับราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับลงจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในตลาด ขณะที่อิหร่าน ยืนยันไม่ลดกำลังการผลิตจะเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ

ดังนั้น ประเมินแนวโน้มราคาทองคำโลกด้านเทคนิค ว่า ราคาทองเริ่มแกว่งตัวออกข้างในกรอบที่แคบขึ้นหลังลงแรง บวกการสร้างแท่งเทียนลักษณะ Star จะทำให้ราคามีโอกาสฟื้นตัวเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม การปรับลงต่ำกว่าแนวรับเส้น 5 และ 10 วัน และการเกิดสัญญาณ Dead Cross ระยะสั้น บวกแนวลงแท่งเทียนที่เข้าโครงสร้างรูปแบบ Rounding Top จะกดดันให้ราคาแนวโน้มฟื้นตัวช่วงสั้นๆ เท่านั้น ก่อนปรับลงต่อตามรูปแบบ โดยให้แนวรับ 1,195-1,190 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,275-1,280 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์
กำลังโหลดความคิดเห็น