xs
xsm
sm
md
lg

เผยหลายปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยเดือน ก.ย.มีลุ้นขึ้นไปทดสอบ 1,400 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“บล.โกลเบล็ก” เผยหุ้นไทยตอบรับข่าวเชิงบวกมาตรการกระตุ้น ศก.ระยะสั้น เผยหากเฟดคง ดบ.ไว้ที่ระดับ 0-0.25% ดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นไปทดสอบ 1,390-1,400 จุด เนื่องจากแรงผลักดันจากการเร่งดำเนินโครงการขนาดใหญ่ รวมถึงแรงซื้อจากการทำ Window Dressing ในไตรมาส 3/2558 ในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยตอบรับข่าวเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ทั้งในส่วนของการเพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้าน การเร่งลงทุนในโครงการขนาดเล็ก และการเร่งเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่โดยกระทรวงคมนาคม

รวมทั้งการเร่งผลักดันงบลงทุนของรัฐบาลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นการบริโภค และการลงทุน คาดว่าจะช่วยหนุนอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจให้เพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้ จากผลการศึกษา Sensitivity analysis จาก Macroeconomic Model ของสำนักงานเศรษฐกิจและกระทรวงการคลัง (สศค.) พบว่า การลงทุนของภาครัฐ 1 แสนล้านบาท จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ (Real GDP) ได้ 0.4% ต่อปี และการที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิมที่ 1.5% เนื่องจากมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ขณะที่ค่าเงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง หนุนภาคการส่งออกในไตรมาส 4/2558

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยลบจากเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย เดือนสิงหาคมมียอดสะสมทั้งเดือน 6.5 พันล้านบาท จากยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีเกือบ 9.3 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรรมการ FOMC ธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะทราบผลในเช้าวันศุกร์ที่ 18 กันยายนว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ จะมีผลต่อกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายไปยังประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า FED จะเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเป็นปลายปี ถ้ามีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้จะเป็นเซอร์ไพรส์ที่กดดันตลาดหุ้นไทย

ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่า สัปดาห์นี้มีปัจจัยสำคัญจากการประชุม FED ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในเช้าวันศุกร์ที่ 18 กันยายนนี้ โดยเบื้องต้น คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.25% เนื่องจากมีผลกระทบต่อทิศทางการลงทุนทั่วโลกโดยคาดการณ์เป็น 2 แนวทาง คือ หาก FED คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.25% ประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบ 1,390-1,400 จุด เนื่องจากแรงผลักดันจากการเร่งดำเนินโครงการใหญ่ภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงแรงซื้อจากการทำ Window Dressing ในไตรมาส 3/2558 ในช่วงปลายเดือนกันยายน หรือหาก FED มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ประเมินว่า SET จะปรับตัวลงจากแรงขายปรับ Position ของกองทุนต่างชาติ โดยมีแนวรับที่บริเวณ 1,340-1,355 จุด

ทั้งนี้ แนะนำลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยบวกกลุ่ม Domestic Play ที่ได้ประโยชน์จากโครงการภาครัฐ กลุ่มอาหาร และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง กลุ่ม ICT จากความคืบหน้าในการประมูล 4G และกลุ่มพลังงาน เช่น IFEC, GUNKUL, SOLAR, SUPER และ TSE ที่ได้อานิสงส์จากข่าวคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศเกณฑ์รับซื้อไฟฟ้าโซลาร์จากส่วนราชการและสหกรณ์ 600 Mw สัปดาห์นี้ และเปิดรับข้อเสนอ 1-10 พฤศจิกายนนี้

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำทรงตัวในกรอบแคบๆ ก่อนปรับขึ้นแรง โดยมีปัจจัยจากกระแสการคาดการณ์ถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ยังไม่มีความแน่นอน โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการ FOMC ธนาคารกลางสหรัฐฯ ระหว่าง 16-17 กันยายน ซึ่งจะทราบผลเช้า 18 กันยายนนี้ ขณะที่ตลาดคาดว่า เฟดอาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

ดังนั้น ประเมินว่าราคาทองที่สามารถฟื้นตัวขึ้นแรงหลังมีการพักตัวออกข้าง โดยสามารถสร้างแท่งเทียน BULLISH ที่ผ่านยืนแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันขึ้นมาพร้อมกันเกิดการหักล้างแนวลง BEARISH FLAG ขณะที่ค่าสัญญาณทางเทคนิคปรับตัวขึ้นเป็นสัญญาณบวกทำให้ราคาแนวโน้มปรับขึ้นต่อจบรอบขาลงระยะสั้นก่อนหน้า แนวรับ 1,105-1,100 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,140-1,145 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์
กำลังโหลดความคิดเห็น