xs
xsm
sm
md
lg

“โกลเบล็ก” มองตลาดกังวลเศรษฐกิจจีนหดตัวให้แนวรับที่ 1,220-1,230 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล.โกลเบล็ก มองตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย ในเดือนธันวาคม 2558 บวกกับจีนประกาศอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดการเงิน เพิ่มสภาพคล่อง แนะจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ให้แนวรับที่ 1,220-1,230 จุด แนะลงทุนกลุ่มวางระบบ ICT ชู SAMTEL ILINK INET AIT MFEC รับอานิสงส์มติ ครม.อนุมัติงบลงทุน 2 หมื่นล้านบาท พัฒนาระบบอินเทอร์เน็ตครบทุกหมู่บ้าน ด้านราคาทองคำแนวโน้มปรับขึ้นต่อโดยให้แนวรับ 1,065-1,060 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,110-1,115 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือนธันวาคม 2558 ว่าอยู่ที่ระดับ 87.5 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 85.8 ในเดือนพฤศจิกายน 2558 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของดัชนีฯ ที่ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 พร้อมทั้ง ครม.อนุมัติงบลงทุน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบอินเทอร์เน็ตให้เข้าถึงครบทุกหมู่บ้าน รวมถึงเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

ด้านตลาดต่างประเทศ ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเม็ดเงิน 6 แสนล้านหยวน (9.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ตลาดการเงินผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) โดยเป็นการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ที่ 1.55 แสนล้านหยวน รวมถึงประกาศให้ธนาคารต่างชาติกันสำรองเงินฝากสกุลเงินหยวนในจีนอีกด้วย

อย่างไรตาม ก็ยังมีปัจจัยที่ยังคงกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยมาจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) จีนที่ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 25 ปี โดย GDP ปี 2558 ขยายตัว 6.9% และในไตรมาสที่ 4 ปี 2558 ต่ำกว่าคาดจากที่ขยายตัว 6.8% รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคมขยายตัว 5.9% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2557 แต่ชะลอตัวลงจากเดือนพฤศจิกายน 2558 นอกจากนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดเศรษฐกิจโลกปี 2559 ขยายตัว 3.4% (ลดลงจากคาดการณ์เดิม 0.2%) เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2559 และ 2560 จะเพิ่มขึ้น 2.6% (ลดลงจากคาดการณ์เดิม 0.2%) และเศรษฐกิจจีนจะเติบโต 6.3% ในปี 2559 และ 6% ในปี 2560 และปัจจัยจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงทำสถิติต่ำสุดใหม่ต่อเนื่อง จากความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาด การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ กดดันราคาหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มที่มีมาร์เกตแคปสูง และกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทย

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่า ความกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัวหลังจากตัวเลข GDP ปี 58 ที่เติบโต 6.9% เป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 25 ปี รวมถึงราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงแรงหลุด 30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เป็นแรงกดดันหลักต่อภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้

ดังนั้น คาดว่า SET ในสัปดาห์หน้าจะอ่อนตัวลง โดยมีแนวรับสำคัญที่ Low เดิม บริเวณ 1,220-1,230 จุด ซึ่งมองว่าเป็นโซนทยอยซื้อสะสม เพื่อรอการประกาศผลการดำเนินงาน และปันผลปี 2558 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แนะนำกลยุทธ์การลงทุน Selective Buy ในกลุ่มที่ปัจจัยบวกสนับสนุน ได้แก่ กลุ่มที่คาดว่างบปี 2558 และผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2558 เติบโตขึ้น แนะนำ EPG DCC QTC FSMART KCE TVT GL BEAUTY BRR EA SYNEX SMPC ช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว และได้ประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันปรับตัวลง แนะนำ AOT BA AAV กลุ่มส่งออกโดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และอาหาร ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่าล่าสุด และกลุ่มวางระบบ ICT แนะนำ SAMTEL ILINK INET AIT MFEC ซึ่งได้ประโยชน์จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบลงทุน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบอินเทอร์เน็ตให้เข้าถึงครบทุกหมู่บ้าน รวมถึงวางระบบเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับขึ้นแรงในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากแรงซื้อทองคำเพื่อลดความเสี่ยงจากความกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีน หลังการเปิดเผยตัวเลขข้อมูลทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศออกมาย่ำแย่ โดยสหรัฐฯ เผยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลงในเดือน ธ.ค. ตัวเลขยอดค้าปลีกลดลงในเดือน ธ.ค. และดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมหดตัวเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ส่วนจีน เผยยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนในเดือน ธ.ค. ปรับลดลงจากเดือน พ.ย. ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ในช่วงขาลง
 
โดยล่าสุด โอเปกออกมาเผยว่า ผลผลิตน้ำมันดิบของโอเปกยังคงอยู่ในระดับสูงในเดือน ธ.ค.2558 ซึ่งมากกว่าอุปสงค์น้ำมัน และการที่ประเทศอิหร่านจะกลับมาส่งออกน้ำมันได้อีกครั้ง หลังการประกาศยุติมาตรการคว่ำบาตรจะเพิ่มแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน สร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพลังงาน และเศรษฐกิจของประเทศที่ส่งออกน้ำมัน ซึ่งล่าสุด เวเนซุเอลาได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ

ดังนั้น ประเมินแนวโน้มราคาทองคำโลกด้านเทคนิค ราคาทองพักตัวออกข้าง หลังการฟื้นตัวขึ้นแรงจากเส้นแนวรับขาขึ้น และแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน ที่เป็นแนวรับสอดคล้องกัน โดยการพักตัวยังมีแนวรับเส้น 5 วันรองรับอยู่ และแนวโน้มขึ้นหลักที่ยังคงอยู่ รวมถึงค่าสัญญาณทางเทคนิคที่เป็นบวกจะทำให้ราคาแนวโน้มพักตัว เพื่อขึ้นต่อตามแนวขึ้นเดิมที่ยังแกว่งตัวอยู่ในรูปแบบ Rounding Bottom โดยให้แนวรับ 1,065-1,060 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,110-1,115 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์
กำลังโหลดความคิดเห็น