xs
xsm
sm
md
lg

GBS คาด SET มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,410 จุด จับตาการทำ Window Dressing ปลายเดือนนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล.โกลเบล็ก มองดัชนีหุ้นไทยยังคงได้รับปัจจัยหนุนเชิงบวกจากการคาดการณ์ ECB จะใช้มาตรการ QE เพิ่มเติม และที่ประชุม FED จะมีมติคง ดบ.ที่ระดับ 0.25-0.50% โดยมีโอกาสปรับตัวขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านเชิงจิตวิทยาที่ระดับ 1,410 จุด พร้อมจับตาการทำ Window Dressing ปลายเดือนนี้ แนะลงทุนหุ้นมาร์เกตแคปใหญ่ ด้านราคาทองคำมีแนวโน้มปรับลงต่อเนื่อง นักลงทุนโยกเงินเข้าสินทรัพย์เสี่ยง

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทย (SET) มีแรงหนุนจากตลาดต่างประเทศที่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะใช้มาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (QE) เพิ่มเติม และธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25%-0.50% ในการประชุมวันที่ 15-16 มีนาคม 2559 นี้ จากเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากขึ้น พร้อมทั้งการทำ Window Dressing ปลายเดือนมีนาคม ปิดงวดสำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2559

อย่างไรตาม ปัจจัยที่กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยก็ยังคงมีต่อเนื่อง โดยในวันที่ 31 มีนาคม 2559 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจประเทศไทย และน่าจะประกาศปรับลดเป้าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจของไทย (GDP) หลังจากเศรษฐกิจไทยมีทิศทางแผ่วลง โดยเห็นได้จากตัวเลขการส่งออกในเดือนมกราคมที่ติดลบ 9.3%

พร้อมกันนี้ ตัวเลขส่งออกของจีนออกมาแย่ที่สุดในรอบ 7 ปี ในเดือนกุมภาพันธ์ มียอดส่งออกร่วงลง 20.6% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 8.218 แสนล้านหยวน (1.263 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่ยอดการนำเข้าลดลง 8% สู่ระดับ 6.123 แสนล้านหยวน ส่วนยอดขาดดุลการค้าต่างประเทศเดือนกุมภาพันธ์ของจีน ร่วงลง 43.3% เทียบรายปี สู่ระดับ 2.095 แสนล้านหยวน

ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET โดยระบุว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยภาวะตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้ายังคงได้รับปัจจัยหนุนเชิงบวกจากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (FED Fund Rate) ที่ระดับเดิมที่ 0.25%-0.50%

ดังนั้น คาดว่า SET จะปรับตัวขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านเชิงจิตวิทยาที่ระดับ 1,410 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,365 จุด แนะนำลงทุนในหุ้นมาร์เกตแคปสูงที่คาดจะเป็นเป้าหมายในการทำ Window Dressing ในช่วงปลายเดือน ได้แก่ AOT, SCC, ADVANC, KBANK และ SCB

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำเริ่มพักตัวลงจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังราคาทองปรับขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้าจากแรงหนุนเรื่องการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยยอดส่งออก และยอดนำเข้าเดือนมกราคมร่วงลงอย่างหนัก ส่งผลให้ตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม และล่าสุด สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานยอดส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ ร่วงลง 20.6% เมื่อเทียบรายปี ที่มียอดการนำเข้าลดลง 8% เมื่อเทียบรายปี จากตัวเลขการค้าของจีนที่ออกมาย่ำแย่สร้างความกังวลต่อความต้องการทองคำอาจลดลง

อย่างไรก็ตาม จากความกังวลถึงแนวโน้มเศรษฐกิจจีน บวกกับราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับลดลงทำให้โกลด์แมน แซคส์ แสดงความคิดเห็นว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในระยะนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเร็วเกินไป และจะไม่ยั่งยืน จะสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยเฟดจะมีการประชุมครั้งต่อไปวันที่ 15 ถึง 16 มีนาคมนี้ จะเป็นปัจจัยดึงดูดให้นักลงทุนมีแนวโน้มกลับมาลงทุนในทองคำอีกครั้ง

ดังนั้น ประเมินแนวโน้มราคาทองคำโลกด้านเทคนิคว่า ราคาทองมีแนวโน้มปรับลงต่อจากการพักฐานออกข้างมาระยะหนึ่ง ก่อนปรับลงมาต่ำกว่าแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน ด้วยการเรียงตัวแท่งเทียนสัญญาณลบเป็นสัญญาณอ่อนแรง ขณะที่ค่าสัญญาณ RSI ที่อยู่ใกล้แนวเขตซื้อมากไป และเริ่มปรับลงจากสัญญาณ Bearish Divergence เป็นแรงกดดันเสริม ทำให้ราคามีโอกาสพักฐานในแนวโน้มขึ้น และปรับลงต่อ โดยให้แนวรับ 1,205-1,200 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,295-1,300 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์
กำลังโหลดความคิดเห็น