ภัทรเฮ้าส์ รุกตลาดอสังหาฯ เดินหน้าลงทุนบ้าน-คอนโดฯ 5 โครงการ มูลค่า 1,500 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 59 กวาดยอดขาย 1,000 ล้านบาท รายได้ 800 ล้านบาท เผยเตรียมลงทุนบ้านหรูหลังละ 40 ล้าน ย่านสุขุมวิท 31 เปิดขายต้นปี 60
นายชาญวิทย์ วิภูศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ บ้าน BOI ในทำเลปทุมธานี และนนทบุรี ภูเก็ต ชลบุรี ภายใต้แบรนด์ภัทรารมย์, ภัทรไพรเวท, ภัทรโมทาวน์, โมทาวน์ บริโอ โดยจะเน้นพัฒนาบ้านระดับกลาง-ล่างมากว่า 30 ปี
สำหรับในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้น โดยมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่า 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ในกรุงเทพฯ และแนวราบ 3 โครงการ ทั้งในภูเก็ต และชลบุรี ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีแรกที่บริษัทหันมาพัฒนาคอนโดฯ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปหันมาอยู่อาศัยคอนโดฯ เพิ่มมากขึ้น
สำหรับคอนโดฯ พัฒนาภายใต้ชื่อ “MOTIVE แจ้งวัฒนะ” เป็นอาคารสูง 7 ชั้น จำนวน 130 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 1 ไร่ ราคาเริ่มต้นที่ 1.57 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 250 ล้านบาท และอีก 1 โครงการ “MOTIVE สุขุมวิท 115” ห่างจากรถไฟฟ้าปู่เจ้าสมิงพราย 300 เมตร จำนวน 73 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 1.49 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 150 ล้านบาท
“ปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ ลุกขึ้นมาลงทุนคอนโดฯ เนื่องจากการศึกษาตลาดในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ผู้บริโภคบางกลุ่มที่เป็นคนรุ่นใหม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการอยู่อาศัย จากที่อยู่บ้านเดี่ยว หรือทาวน์เฮาส์ในพื้นที่นอกเมือง เปลี่ยนมาอยู่อาศัยคอนโดฯ ในเมือง และใกล้รถไฟฟ้ามากขึ้น” นายชาญวิทย์ กล่าว
ในส่วนของโครงการแนวราบปีนี้เปิด 3 โครงการ ที่จังหวัดภูเก็ต 2 โครงการ และกรุงเทพฯ อีก 1 โครงการ ได้แก่ โครงการเดอะวิช แอท ป่าคลอก จังหวัดภูเก็ต พัฒนาในรูปแบบบ้านแฝด และบ้านเดี่ยวชั้นเดียว คาดว่าจะเปิดตัวประมาณเดือนเมษายน และอีก 1 โครงการ พัฒนาในรูปแบบของที่อยู่อาศัยแนวราบในจังหวัดภูเก็ตเช่นกัน และเป็นโครงการแนวราบในทำเลบางบัวทองอีก 1 โครงการ
นอกจากการพัฒนาโครงการระดับกลางล่างแล้ว บริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาโครงการระดับลักชัวรีใจกลางเมือง โดยล่าสุด ได้ซื้อที่ดินขนาด 200 ตร.ว. มูลค่า 88 ล้านบาท ใน ซ.สุขุมวิท 31 เพื่อพัฒนาบ้านระดับราคาหลังละ 40 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดขายได้ในปี 60
นายชาญวิทย์ กล่าวต่อว่า บริษัทตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตรายได้จากคอนโดฯ สัดส่วน 30-40% ส่วนบ้านแนวราบ 60-70% โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย 1,000 ล้านบาท และรายได้ 700-800 ล้านบาท หรือเติบโต 40% จากปีที่ผ่านมา ที่มียอดขาย 500 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างว่างระบบบัญชีเพื่อยื่นขอไฟลิ่งในช่วงปลายปี
สำหรับมุมมองภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลยังสามารถเติบโตไปได้ในกลุ่มระดับราคา 1.5-1.8 ล้านบาท โดยเฉพาะในทำเล ปทุมธานี นนทบุรี แจ้งวัฒนะ ทำเลดังกล่าวยังเป็นทำเลที่น่าสนใจ เนื่องจากการขยายตัวของเมือง และการเริ่มเคลื่อนไหวของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ก็ยิ่งทำให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น สร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย และซื้อเพื่อการลงทุน
