ไม่นานมานี้มีความเคลื่อนไหวสำคัญของ “พฤกษา เรียลเสเตท” บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่เตรียมจะ Delist ตัวเองออกจากตลาดหลักทรัพย์ชั่วคราว เพื่อที่จะปรับโครงสร้างธุรกิจภายให้เป็นบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อลงทุนในธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงแรม อาคารสำนักงาน ฯลฯ โดยตั้งเป้าที่จะมีรายได้รวมจากธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่ธุรกิจดั้งเดิมสัดส่วน 20%
จุดประสงค์หลักของการปรับโครงสร้างธุรกิจก็เพื่อสร้างรายได้ประจำที่สม่ำเสมอในระยะยาว และกระจายความเสี่ยง เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการแข่งขันที่สูงขึ้น มีผู้เล่นรายใหม่ที่มีเม็ดเงินลงทุนสูงเข้ามาทำให้พฤกษาฯ ต้องปรับตัวครั้งใหญ่
หากมองย้อนกลับไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หุ้น PS ถือว่าเดินทางมาได้ไกลพอสมควร จากการเป็นเพียงบริษัทรับเหมาก่อสร้าง เริ่มพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์ของตัวเองในย่านลำลูกกา จนกระทั่งพัฒนาที่อยู่อาศัยครบวงจร และขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ (ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จ) อย่าลืมว่าอสังหาฯ เป็นธุรกิจที่มีความเป็นท้องถิ่นสูง แทบไม่มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใดที่ประสบความสำเร็จจาการไปลงทุนต่างประเทศ
ส่วนตัวมองว่า การที่พฤกษาฯ ไม่ประสบความสำเร็จต่อการไปขยายธุรกิจในต่างประเทศเป็นแรงผลักดันให้ต้องขยายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่นๆ เนื่องจากพฤกษาฯ น่าจะถึงจุดที่เรียกว่า “อิ่มตัว” ในธุรกิจอสังหาฯ แล้ว หากเทียบกับในอดีต 4-5 ปีให้หลัง ที่มีอัตราการเติบโตประมาณ 30% ทุกปี ปัจจุบันการเติบโตเริ่มชะลอตัวลง ที่สำคัญโมเดลการขยายกิจการไปยังต่างจังหวัดของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ด้วยแนวคิด Urbanization ไปยังหัวเมืองต่างๆ ที่ไม่ใช่กรุงเทพฯ ในช่วงหลายปีหลังมานี่ได้พิสูจน์แล้วว่า “ล้มเหลว”
เนื่องจากกำลังซื้อของคนต่างจังหวัดแม้แต่จังหวัดใหญ่ๆ อย่างเชียงใหม่ ภูเก็ต ยังห่างจากคนกรุงเทพฯ อยู่มาก ถ้าจะขายได้ก็เฉพาะชาวต่างชาติ และคนต่างจังหวัดก็ไม่นิยมอยู่คอนโดมิเนียม และการอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยวก็มีคู่แข่งสำคัญคือ ผู้ประกอบการท้องถิ่น
การที่จะคงความเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไว้ได้ พฤกษาฯ จำเป็นต้องเข้าไปลงทุนในธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกัน (ผู้บริหารยืนยันแล้วว่าไม่ไปลงทุนพวกพลังงานทางเลือกแน่นอน) หากการขยายธุรกิจใหม่สำเร็จด้วยดี ทิศทางรายได้ และกำไรของพฤกษาฯ จะมีความมั่นคงมากขึ้น จากที่ผ่านมา ราคาหุ้น PS แม้จะเป็น Growth Stock แต่ก็มีความผันผวนสูงตามภาวะเศรษฐกิจ การมีธุรกิจที่สร้างรายได้มั่นคงจากค่าเช่า อย่างห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล จะทำให้ PS พัฒนาตัวเองไปอีกขั้นหนึ่งได้เลยทีเดียว และจะเหนือว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ด้วยกันที่ส่วนใหญ่ยังเป็นการสร้างบ้านขาย
แต่ความเสี่ยงคือ พฤกษาฯ กำลังลงไปเล่นในสนามที่มีแต่คู่แข่งเขี้ยวลากดินทั้งสิ้น เช่น ห้างต้องแข่งกับเซนทรัล อาคารสำนักงาน และโรงพยาบาลก็มีคู่แข่งจำนวนมาก ซึ่งอยู่ในธุรกิจดังกล่าวมานานกว่า ถ้าพฤกษาฯ ไม่มีผู้บริหารที่มีความชำนาญ หรือผู้ร่วมทุนที่แข็งแกร่ง อาจทำให้บริษัทไร้ซึ่งจุดเด่นไปเลยก็เป็นได้ (ในอดีตพฤกษาขึ้นชื่อด้านทาว์นเฮาส์ และสร้างบ้านได้เร็ว)
ต่อจากนี้ไปคือเกมที่สำคัญของพฤกษาฯ ที่จะก้าวขึ้นมาเป็น Big Player ของตลาดหุ้นไทย หากผ่านไปได้อาจจะเป็นสตอรี่การเติบโตครั้งสำคัญครั้งที่ 2 หลัง Shift ตัวเองจากการทำทาว์นเฮาส์อย่างเดียวมาเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร
ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดครับ....
นเรศ เหล่าพรรณราย
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง