เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมปีที่แล้วถือเป็นการประกาศที่จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเป็นทางการ โดยเลื่อนมาจากวันที่ 1 มกราคม 2558 (คือยังอยู่ในปี 2558 เดิมที่กำหนดไว้แต่ยืดเวลาให้นานขึ้นอีก 364 วัน) สำหรับตลาดหุ้นหลายสำนักวิจัยได้วิเคราะห์ถึงผลกระทบที่จะมาจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียนว่าจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น เศรษฐกิจ รวมถึงหุ้นตัวนั้นตัวนี้
ทว่า..แท้จริงแล้ว การเปิด AEC ไม่ได้มีผลกระทบในทันทีต่อการเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นแต่อย่างไร เหตุผลเพราะ
หนึ่ง..การลงทุนระหว่างประเทศในชาติอาเซียนด้วยกันเกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจธนาคาร พลังงาน ค้าปลีก ฯลฯ ไม่ได้เพิ่งเริ่มขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว ภาคเอกชนในประเทศที่มีความพร้อม เช่น ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ต่างต้องการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคอยู่แล้ว หมายความว่าหลังวันที่ 31 ธันวาคมปีที่แล้ว จึงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างทันทีแต่อย่างใด
สอง..การเคลื่อนย้ายเงินทุนยังไม่เสรีเต็มตัว ระหว่างชาติอาเซียนยังมีความแตกต่างในเรื่องของระบบการเงินค่อนข้างมาก บางประเทศมีเสรีเต็มตัว บางประเทศยังอยู่ภายใต้การควบคุมของภาครัฐ รวมถึงระบบโครงสร้างพื้นฐานก็ยังไม่ได้มาตรฐาน ทำให้การลงทุน และเคลื่อนย้ายเงินทุนไม่ได้ง่ายเสมอไป
สาม..AEC ไม่ได้หมายความว่าเคลื่อนย้ายแรงงานและการลงทุนได้อย่างเสรี แม้ความพยายามของชาติอาเซียนที่ต้องการจะทำให้เกิดการค้าเสรี และลดภาษีให้เป็นศูนย์ แต่จริงแล้วแต่ละชาติยังมีสิทธิของตัวเองในการกำหนดคุณสมบัติของนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาทำธุรกิจในรูปแบบของ Non Tariff Barrier ซึ่งไม่เกี่ยวข้องต่อภาษี เช่น กำหนดคุณสมบัติของสินค้า มาตรฐานความปลอดภัย ฯลฯ ขณะที่ด้านแรงงานก็จะมีการกำหนดคุณสมบัติของแต่ละวิชาชีพ เช่น ต้องใช้ภาษาท้องถิ่นได้ เป็นต้น
สรุปคือ การเคลื่อนย้ายแรงงาน และการลงทุนไม่ได้เสรีทั้ง 100% การขยายกิจการยังต้องดูเป็นเคสต่อเคสไป ไม่ใช่ว่าใครก็ได้ก็สามารถเข้าไปทำธุรกิจต่างแดน
สี่..ตลาดหุ้นในชาติอาเซียนส่วนมากยังอยู่ในช่วงของการพัฒนา มีเพียงแค่ตลาดหุ้นสิงคโปร์เท่านั้นที่มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล นอกนั้นยังอยู่ในขั้นของการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ส่วนเวียดนาม กัมพูชา ลาว และพม่า ยังต้องใช้เวลาอีกนานในการพัฒนา และที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ได้เปิดโครงการ ASEAN Linkage เพื่อเชื่อมโยงการลงทุนในอาเซียนด้วยกันแล้วแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
บทสรุปคือ นักลงทุนต้องระมัดระวังในการลงทุนตามกระแสของการใช้คำว่าเปิด AEC เพราะไม่มีความหมายในเชิงปฎิบัติต่อเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นโดยตรงแต่อย่างใด แต่จะมีผลต่อหุ้นบางตัวที่มีการเข้าไปลงทุนขยายกิจการ หรือเปิดตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียนจริง นักลงทุนควรศึกษาว่าการเข้าไปลงทุนครั้งนี้จะส่งผลดี หรือผลเสียอย่างไรต่อกิจการ อย่าไปตามกระแสของคำว่า AEC ทุกครั้ง เพราะไม่ใช่ว่าหุ้นทุกตัวจะได้รับผลเชิงบวก ซึ่งบางกิจการอาจนำสตอรี่ดังกล่าวไปใช้ในการเก็งกำไรได้
อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจไทยต่างมีจุดแข็งในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภูมิศาสตร์ประเทศที่อยู่ใจกลางของภูมิภาค ความชำนาญในธุรกิจบริการและความคิดสร้างสรรค์ การที่บริษัทจดทะเบียนไทยจะเข้าไปลงทุนในอาเซียนจึงไม่ใช่เรื่องยาก และจะเป็นแรงขับเคลื่อนในแง่ผลประกอบการได้แต่ควรที่จะต้องติดตามข่าวสาร และวิเคราะห์อย่างใกล้ชิด
SuperTrader Team
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง