นานๆ ทีจะมีภาพยนตร์ที่ดำเนินเรื่องโดยใช้ตลาดหุ้น สำหรับนักลงทุนคงไม่พลาดที่จะไปชมเรื่องล่าสุดอย่าง The Big Shot ชื่อไทยว่าเกมส์เสียโอกาสรวย ซึ่งยึดเนื้อเรื่องในสมัยวิกฤตซับไพรม์ปี 2008 เป็นการฉายภาพ “สันดาน” ความโลภของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ส่วนเนื้อเรื่องไม่ขอสปอยล์ครับ ไปดูในโรงหนังเอาเองดีกว่า
ก่อนหน้านี้ ยังมีหนังที่อ้างอิงเรื่องราวในตลาดหุ้นอย่าง Wolf Of Wall Street ออกมาฉายเมื่อ 2-3 ปีก่อน เรื่องนี้ก็สะท้อนสันดานความโลภของมนุษย์ออกมาได้ดีส่วนตัวผมยังชอบหนังเรื่อง Wall Street 2 มากกว่า และชอบมากกว่าภาคแรก เพราะการผูกเรื่องราวที่สร้างตัวละครได้แตกต่างกันอย่างชัดเจน ตัวพระเอกเป็น Wall Street Guy เต็มตัว ส่วนนางเอกมุ่งมั่นต่อการสร้างพลังงานทดแทน เป็นภาพสะท้อนของคนที่อยู่ใน Main Street (ความหมายถึงคนที่ทำงานในภาคเศรษฐกิจจริง มีตัวตนจับต้องได้)
กลับมาที่หนัง The Big Shot ใครที่ไปดูมาแล้วจะเห็นว่าในเรื่องนี้มีตัวละครหลักอยู่ 4 คน ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนและเทรดเดอร์ที่มีคาแร็กเตอร์ประจำตัวแตกต่างกันออกไป คนหนึ่งชอบวัดดวงแบบสุดๆ คนหนึ่งมีโลจิกการลงทุนสูง และมีศีลธรรม คนหนึ่งมีความรอบคอบสูง ผมคิดว่าทั้ง 4 คนนี้สามารถเป็นตัวแทนของนักลงทุน และนักการเงินในตลาดหุ้นได้เลยทีเดียว
แต่ไม่ว่าใครจะมีคาแร็กเตอร์อย่างไร สิ่งเดียวที่คนเหล่านั้นต้องการคือ “ผลกำไร” ซึ่งอาจจะมาทั้งแบบสีขาว หรือสีออกเทาๆ จะมีความโลภมากหรือน้อยก็ตามแต่ตัวเลขสีเขียวคือสิ่งเดียวที่คนซึ่งอยู่ในตลาดหุ้นต้องการ
ปฎิเสธไม่ได้ครับว่าทุกคนที่เข้ามาในตลาดหุ้นต้องการ “รวย” แม้ในตำราด้านตลาดทุนจะบอกว่าตลาดหุ้นคือแหล่งระดมทุนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ และสร้างผลตอบแทนเพื่อที่จะชนะเงินเฟ้อ แต่นั่นคือในตำราครับ โลกแห่งความจริงคือทุกคนในตลาดหุ้นไม่ว่าจะมือเก่า หรือมือใหม่ต่างต้องการกำไรให้มากที่สุด เหตุผลเดียวที่ใช้อ้างกับตัวเอง (แน่นอนว่าไม่กล้าบอกให้ใครฟัง)เ วลาขายหุ้น หรือปิดสถานะในตลาดอนุพันธ์ก็คือ “กลัว” ที่จะถูกคืนกำไรนั่นเอง ถ้าใครที่รู้ล่วงหน้าว่าตัวเองยังทำกำไรได้ เชื่อเถอะว่าไม่มีใครรีบขายทำกำไรหรอก
นายเก่าของผมคนหนึ่งเคยพูดว่า การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นสินค้าที่ไม่มีวันตาย เช่นเดียวกับสินค้าอุปโภบริโภคทั่วไป เพราะเป็นของที่เล่นกับความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ซึ่งนั่นคือ “เงิน” นั่นเอง เราจึงเห็นบรรดากูรู คอร์สอบรม สื่อด้านการลงทุนเกิดขึ้นมากมาย แม้ตลาดหุ้นจะไม่ค่อยดีก็ตาม แต่ก็แค่ซบเซาเท่านั้น ไม่ถึงกับหายไป
ในเมื่อทุกคนในตลาดหุ้นอยู่กับความโลภ แล้วตัวเราจะอยู่กับความโลภเหล่านั้นอย่างไร ผมมองว่าทุกคนไม่สามารถหลุดพ้นจากมันได้หรอกครับ ไม่เช่นนั้นคงเป็นพระอรหันต์กันหมดแล้ว แต่คนที่สามารถควบคุมความโลภได้ต่างหากคือคนที่จะอยู่กับตลาดหุ้นได้ยาวนาน
เมื่อคุณเข้าใจแล้วว่าคนส่วนใหญ่ที่ยังขาดทุน หรือไม่ประสบความสำเร็จเพราะยังหนีตัวเองจากวังวนเดิมๆ ไม่ได้ การควบคุมความโลภให้อยู่น่าจะเป็นเส้นชัยหนึ่งของเทรดเดอร์ทุกคนมากกว่าเป้าหมายผลตอบแทนที่เป็นตัวเลขเท่านั้นครับ
นเรศ เหล่าพรรณราย
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง