xs
xsm
sm
md
lg

เค้าลางของวิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผมได้เขียนถึงวิกฤตภาคการธนาคารไปหลายครั้งแล้วว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหม่ ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ช่างดูคล้ายกับปรากฏการณ์ “เดจาวู” วิกฤตปี 2008 เสียเหลือเกิน

ล่าสุด ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ของประเทศอังกฤษ ที่มีนโยบายลงทุนทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศเกิดใหม่ในเอเชียรายงานผลประกอบการที่เซอร์ไพรส์ด้วยผลขาดทุนกว่า 1,500 ล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา ถือเป็นผลขาดทุนที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของธนาคาร

เหตุผลของการขาดทุนมาจากการตั้งสำรองหนี้เสียที่เกิดขึ้นจากการปล่อยกู้ในธุรกิจพลังงาน รวมถึงปล่อยกู้ภาคธุรกิจในประเทศจีน ที่สำคัญยังระบุว่า มีผลขาดทุนจากการตั้งสำรองธุรกิจในประเทศไทยเสียด้วย นอกจากนี้ ยังต้องทบทวนการดำเนินกิจการในประเทศอินโดนีเซีย

ราคาหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วงลงกว่า 12% เมื่อรายงานผลประกอบการตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาราคาหุ้นร่วงลงมาแล้ว 25%

เหตุผลที่มาสนับสนุนการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่นั่นคือ ปัญหาหนี้เสียภาคธนาคารทั่วโลกถีบตัวสูงขึ้น ล่าสุด อยู่ที่ 200 ล้านล้านเหรียญ มีขนาดใหญ่เป็น 3 เท่าของขนาดเศรษฐกิจโลก โดยข้อมูลจากธนาคารเพื่อการชำระเงิระหว่างประเทศ หรือ BIS ระบุว่าหนี้สินภาคเอกชนของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากปี 2552 ยังอยู่เพียงแค่ 75% ต่อจีดีพี ล่าสุด เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 125% ของจีดีพี โดยเฉพาะหนี้ในประเทศจีน และบราซิล
นเรศ เหล่าพรรณราย
นอกจากนี้ ยังมีรายรายงานตัวเลขการผิดนัดชำระหุ้นกู้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ในระดับใกล้เคียงวิกฤตเศรษฐกิจปี 1998 และ 2008 และบริษัทเอกชนทั่วโลกมีการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มมากขึ้นในปีที่ผ่านมา ปัจจัยหลักคือ เศรษฐกิจจีนที่ไม่ฟื้นตัว และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตกต่ำ

มีการคาดการณ์ว่า ภาคการธนาคารในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะต้องขายหนี้เสียออกมามาขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

ภาคการธนาคารถือเป็นเส้นเลือดสำคัญที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจ ทั้งในแง่ของการเป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนเงินตรา และแหล่งระดมทุน หากเกิดความเสียหายย่อมกระทบไปถึงภาคเศรษฐกิจจริง เช่น ภาคการผลิตอย่างแน่นอน

หากเราประเมินภาพของเศรษฐกิจโลกในเวลานี้ คงเปรียบได้กับ “ฟองสบู่” ที่กำลังหดตัวลง ฟองสบู่ก้อนนี้ไม่ถึงกับแตกแต่ก็เกิดรอยรั่วขึ้น ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหดตัวลง พูดง่ายๆ คือ ภาคการผลิตของโลกในเวลานี้อยู่ในภาวะ “เฟ้อ” เกินจริง เนื่องจากการเร่งผลิตเกินความต้องการ รวมถึงฟองสบู่ภาคการเงินที่หายไปจากการดูดสภาพคล่องกลับคืนเพราะเฟดตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว

ภาพของเศรษฐกิจไทยในเวลานี้ต่างจากวิกฤตปี 2008 ตอนนั้นร่างกายเรายังแข็งแรง เพียงแค่คนรอบบ้านเกิดอาการป่วยหนัก และกระทบมาถึงเราเท่านั้น แต่รอบนี้เราเป็นคนป่วยเสียเอง อาจจะไม่หนักถึงขั้นทำให้ตาย แต่ก็ต้องนอนพักฟื้นนานหน่อย แถมคนรอบตัวยังป่วยไปตามๆ กัน

จากเหตุการณ์ และตัวเลขเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ชวนให้คิดไปว่าวิกฤตรอบใหม่ (อาจจะ) เกิดขึ้นอีกหรือไม่ ทางที่ดีอย่าได้ประะมาทและลงทุนอย่างระมัดระวัง

นเรศ เหล่าพรรณราย
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง


กำลังโหลดความคิดเห็น