ซีบีอาร์อีฯ คาดการณ์ตลาดอสังหาฯ ปี 59 ตลาดที่อยู่อาศัยยอดขายชะลอตัว ตลาดรีเซลล์คอนโดฯ กลางเมืองยังโต คาดราคาปรับขึ้นเฉลี่ย 10% ขณะที่ตลาดสำนักงานพบจองเช่าล่วงหน้าก่อนตึกสร้างเสร็จ
น.ส.อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2559 ว่า เศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพีในปี 2559 จะเติบโตที่อัตรา 3.5% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปี 58 ที่ 2.8% ซึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ คือ ธุรกิจอี คอมเมิร์ซ การเติบโตด้านการท่องเที่ยว และราคาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลชั้นดีที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา พบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยหันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จึงคาดว่าตลาดอี คอมเมิร์ซจะเติบโตขึ้นอย่างมากในปี 2559 ส่งผลให้ผู้ค้าปลีกรายใหญ่หลายรายที่มีช่องทางในการขายสินค้าออนไลน์อยู่แล้ว เช่น เซ็นทรัล เดอะมอลล์ เทสโก้โลตัส และบิ๊กซี วางแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายออนไลน์ในปี 2559 อีกด้วย การซื้อสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้นมีผลทำให้ตลาดรีเทลมีการแข่งขันสูง
การที่ธุรกิจอี คอมเมิร์ซได้รับความนิยมมากขึ้นช่วยสร้างโอกาสให้แก่ตลาดอาคารสำนักงาน และลอจิสติกส์ โดยพบว่า มีบริษัทอี คอมเมิร์ซหลายรายได้เปิดสำนักงาน หรือขยายพื้นที่สำนักงานของตนในปีที่ผ่านมา ซึ่งมาทดแทนบริษัทขนาดเล็กบางรายที่ปิดกิจการไปในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ เชื่อว่าอัตราพื้นที่ว่างในตลาดอาคารสำนักงานจะยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องและยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากปริมาณพื้นที่สำนักงานในอนาคตจะมีจำนวนจำกัด ประกอบกับความต้องการการเช่าพื่นที่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งคาดว่าอัตราค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานมีโอกาสที่จะค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นในปี 2559 นอกจากนี้ ยังทำให้ความต้องการศูนย์ขนส่งและกระจายสินค้าเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในแถบตะวันออกของกรุงเทพมหานคร บริษัทอี คอมเมิร์ซ เช่น ลาซาด้า และกลุ่มเซ็นทรัลได้มีการขยายคลังสินค้าใหม่หลายแห่งในปีที่แล้วเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจอี คอมเมิร์ซในปีนี้
ส่วนการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปี 2558 ปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมีจำนวนสูงถึง 29.8 ล้านคน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อันเป็นผลมาจากการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มากถึง 26% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด และขยายตัวถึง 10 เท่าในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา จาก 7 แสนคนในปี 2548 เป็น 7 ล้านคนในปี 2558 ปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นได้ส่งผลให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมในย่านใจกลางกรุงเทพฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนเกือบแตะระดับ 75% อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวจะเข้ามาซื้อที่ห้องชุด หรือที่อยู่อาศัยในไทยเมื่อเดินทางมาเที่ยว 4-5 ครั้ง และพบว่ามีนักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลางได้ซื้อบ้านยูนิตละกว่า 50 ล้านบาท 2-3 ยูนิต
น.ส.อลิวัสสา กล่าวต่อว่า สำหรับราคาคอนโดมิเนียมใหม่ในทำเลใจกลางกรุงเทพฯ จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2558 โครงการคอนโดมิเนียมชั้นนำบางโครงการสามารถทำลายสถิติราคาที่มากกว่า 3 แสนบาทต่อ ตร.ม. และยังคงยอดขายได้ในระดับสูง แผนกวิจัย ซีบีอาร์อีมองว่าความสำเร็จของโครงการเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อ ทั้งในด้านทำเล คุณภาพ การออกแบบ และรายละเอียดวัสดุที่เลือกใช้
“ในปีนี้ตลาดไฮเอนด์ยังคงเติบโตต่อไปได้ ซึ่งเชื่อว่าราคาจะปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมาราคาขายเฉลี่ยของบริษัทปรับเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 8-12 ล้านบาท เมื่อหลายปีที่ผ่านมา และเมื่อปี 57 ราคาได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 15 ล้านบาท กระทั้งในปี 58 ราคาได้กระโดดขึ้นมาเป็น 26.5 ล้านบาท เนื่องจากมีการซื้อขายที่อยู่อาศัยราคาแพงมากขึ้น” น.ส.อลิวัสสา กล่าว
สำหรับราคาที่ดินในทำเลชั้นดีของกรุงเทพฯ จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อ เพราะผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการจะเป็นเจ้าของที่ดินที่เหมาะสมในทำเลชั้นดี เราเชื่อว่าจะมีการสร้างสถิติราคาที่ดินใหม่ภายในครึ่งแรกของปี 2559 และจากราคาที่ดินที่สูงจะส่งผลให้ราคาคอนโดมิเนียมใหม่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
ในปี 2559 จะมี 6 ปัจจัยที่เป็นโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ตลาดที่พักอาศัยทั้งตลาดรีเซล และการพัฒนาโครงการใหม่การลงทุนในที่ดิน ตลาดอาคารสำนักงาน ตลาดโรงแรม และตลาดโรงงานอุตสาหกรรม โอกาสในตลาดคอนโดมิเนียมมือสอง (รีเซล) ในอดีตที่ผ่านมา ราคาคอนโดมิเนียมเก่านั้นไม่ได้มีความเคลื่อนไหวในอัตราเดียวกันกับคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่ แต่จากการที่ราคาคอนโดมิเนียมใหม่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสให้คอนโดมิเนียมเก่ามีราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะยูนิตขนาดใหญ่ 2-3 ห้องนอน โดยเฉลี่ยคอนโดฯ รีเซลล์จะมีราคาปรับขึ้นไม่น้อยกว่าปีละ 7% โดยเฉพาะคอนโดฯ ที่มีการบริหารจัดการดูแลดี ขณะที่คอนโดฯ เปิดขายใหม่ปรับขึ้นปีละประมาณ 6%
ด้านนายนิธิพัฒน์ ทองพันธุ์ กรรมการบริหารและหัวหน้าแผนกจัดหาพื้นที่สำนักงาน บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดอาคารสำนักงานปี 2559 เติบโตต่อเนื่อง โดยคาดว่าพื้นที่สำนักงานใหม่จะขยายตัวสูงถึง 2.2 แสนตารางเมตร เพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากปี 2558 ที่ความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานอยู่ที่ 2 แสน ตร.ม. ทำให้อัตราว่างการใช้พื้นที่สำนักงานปี 2558 อยู่ที่ 8.8% ลดลงมาเรื่อยๆ จาก 10% ในช่วง 2 ปีที่ผ่าน
นอกจากนี้ ยังเห็นการเซ็นสัญญาเช่าก่อนที่อาคารจะสร้างเสร็จเพิ่มมากขึ้น เช่น ตึกเอฟวายไอ มีพื้นที่เช่าประมาณ 5 หมื่น ตร.ม. อาคารกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จช่วงกลางปี แต่ปัจจุบันมีลูกค้าเซ็นสัญญาเช่าไปแล้วกว่า 60% อาคารเอ็มทาวเวอร์ สุขุมวิท 62 จะก่อสร้างเสร็จไตรมาส 3 ปี 2559 มีพื้นที่เช่า 1.3 หมื่น ตรม. ปัจจุบันมีผู้เช่าเต็ม 100% เหตุลผลหลักมาจากซัปพลายใหม่ของสำนักงานกรุงเทพฯ ใหม่มีจำนวนจำกัด โดยในปี 2559 จะมีซัปพลายใหม่สร้างเสร็จเข้ามาในตลาดประมาณ 2.4 แสน ตร.ม ซึ่งถือว่าน้อยมาก เปรียบเทียบกับซัปพลายที่มีทั้งหมด 8.4 ล้าน ตร.ม. อย่างไรก็ดี จากซัปพลายใหม่เข้ามามีจำนวนจำกัดส่งผลให้ค่าเช่าสำนักงานในปีหน้าปรับเพิ่มขึ้น 5%
