ผู้จัดการรายวัน 360 - “คาสิโอ” ปักไทยฐานผลิตสินค้าเพิ่มจากเดิมมีแค่นาฬิกาที่โรงงานโคราช ย้ำมั่นใจไม่ทิ้งไทย พร้อมดันเป็นฐานรุกพม่าและลาว หลังตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาดำเนินการควบคู่กับตัวแทนจำหน่ายเดิมในไทย
นายฮิโรชิ นากามูระ กรรมการบริหารอาวุโส กรรมการบอร์ด และผู้จัดการทั่วไปอาวุโส กลุ่มงานการตลาดโลก ฝ่ายกลยุทธ์การตลาดโลก ฝ่ายขายต่างประเทศ บริษัท คาสิโอ คอมพิวเตอร์ จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า คาสิโอญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญต่อตลาดประเทศไทยและมีการลงทุนต่อเนื่องโดยไม่มีแผนย้ายฐานจากประเทศไทยไปที่อื่น ซึ่งที่ผ่านมาได้ใช้โรงงานในไทยที่ จ.นครราชสีมา เป็นฐานการผลิตเครื่องคิดเลขและดิกชันนารีไฟฟ้า ทั้งยังมีแผนที่จะลงทุนเพื่อผลิตไลน์สินค้าอื่นอีกด้วยเพื่อเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในตลาดไทยจากเดิมโรงงานที่ผลิตเพียงนาฬิกาเท่านั้น
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 ได้ก่อตั้งบริษัท คาสิโอ มาร์เก็ตติ้ง ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกลำดับที่สี่ของ “คาสิโอ คอมพิวเตอร์” ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งก่อนหน้านี้ “คาสิโอ คอมพิวเตอร์” ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์และแบรนด์ในไทยผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายมาโดยตลอดตั้งแต่เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2513 และวางแผนที่จะให้ “คาสิโอ มาร์เก็ตติ้ง ไทยแลนด์” เป็นฐานธุรกิจที่จะดูแลธุรกิจคาสิโอในประเทศพม่าและลาวในอนาคต โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียด
“ประเทศไทยคือตลาดที่ใหญ่ที่สุดของคาสิโอในภูมิภาคอาเซียน ด้วยจำนวนประชากรมากกว่า 67 ล้านคน และเป็นตลาดที่ทำรายได้สูงอันดับที่สองรองจากสิงคโปร์ มีรายได้ประมาณ 5 พันล้านเยนเมื่อปี 2557 และตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านเยนในปี 2560 โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ในไทยมาจากนาฬิกาคาสิโอเป็นหลัก 50% และจะเพิ่มบทบาทและสัดส่วนรายได้ในกลุ่มอื่นด้วย เช่น โปรเจกเตอร์ดิจิตอล และดิกชันนารีไฟฟ้า เป็นต้น ขณะที่รายได้ทั่วโลกของคาสิโอมีประมาณ 300 ล้านเยน สัดส่วนรายได้เรียงลำดับ คือ ญี่ปุ่น ยุโรป จีน และอเมริกาเหนือ ส่วนอาเซียนสัดส่วนรายได้ประมาณ 10%” นายฮิโรชิกล่าวในตอนท้าย
ด้าน นายโคจิ ชินโจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาสิโอ มาร์เก็ตติ้ง ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ จะดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ในประเทศไทย คือ กลุ่มเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง หรือ “ซีเอ็มจี” และบริษัท อิสท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้ดูแลผลิตภัณฑ์ต่างๆ คือ นาฬิกาแบรนด์จีช็อก, เบบี้จี, อีดิเฟียส, ชีน, โอเชียนัส, โปร เทร็ค และคาสิโอ
นอกจากนี้ ยังดูแลกล้องดิจิตอลคอมแพกต์สำหรับเซลฟี, แกรนด์เปียโนและคียบอร์ดแบบไฮบริดดิจิตอล เซลเวียโน และพรีเวีย, เครื่องคิดเลขทั่วไป, เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์แบบกราฟิก, เครื่องพิมพ์ฉลาก, เครื่องโปรเจกเตอร์แอลอีดี แบบเลเซอร์ไฮบริด และเครื่องบันทึกเงินสดระบบพีโอเอส
นายฮิโรชิ นากามูระ กรรมการบริหารอาวุโส กรรมการบอร์ด และผู้จัดการทั่วไปอาวุโส กลุ่มงานการตลาดโลก ฝ่ายกลยุทธ์การตลาดโลก ฝ่ายขายต่างประเทศ บริษัท คาสิโอ คอมพิวเตอร์ จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า คาสิโอญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญต่อตลาดประเทศไทยและมีการลงทุนต่อเนื่องโดยไม่มีแผนย้ายฐานจากประเทศไทยไปที่อื่น ซึ่งที่ผ่านมาได้ใช้โรงงานในไทยที่ จ.นครราชสีมา เป็นฐานการผลิตเครื่องคิดเลขและดิกชันนารีไฟฟ้า ทั้งยังมีแผนที่จะลงทุนเพื่อผลิตไลน์สินค้าอื่นอีกด้วยเพื่อเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในตลาดไทยจากเดิมโรงงานที่ผลิตเพียงนาฬิกาเท่านั้น
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2557 ได้ก่อตั้งบริษัท คาสิโอ มาร์เก็ตติ้ง ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกลำดับที่สี่ของ “คาสิโอ คอมพิวเตอร์” ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งก่อนหน้านี้ “คาสิโอ คอมพิวเตอร์” ทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์และแบรนด์ในไทยผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายมาโดยตลอดตั้งแต่เข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2513 และวางแผนที่จะให้ “คาสิโอ มาร์เก็ตติ้ง ไทยแลนด์” เป็นฐานธุรกิจที่จะดูแลธุรกิจคาสิโอในประเทศพม่าและลาวในอนาคต โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียด
“ประเทศไทยคือตลาดที่ใหญ่ที่สุดของคาสิโอในภูมิภาคอาเซียน ด้วยจำนวนประชากรมากกว่า 67 ล้านคน และเป็นตลาดที่ทำรายได้สูงอันดับที่สองรองจากสิงคโปร์ มีรายได้ประมาณ 5 พันล้านเยนเมื่อปี 2557 และตั้งเป้าหมายรายได้เพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านเยนในปี 2560 โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ในไทยมาจากนาฬิกาคาสิโอเป็นหลัก 50% และจะเพิ่มบทบาทและสัดส่วนรายได้ในกลุ่มอื่นด้วย เช่น โปรเจกเตอร์ดิจิตอล และดิกชันนารีไฟฟ้า เป็นต้น ขณะที่รายได้ทั่วโลกของคาสิโอมีประมาณ 300 ล้านเยน สัดส่วนรายได้เรียงลำดับ คือ ญี่ปุ่น ยุโรป จีน และอเมริกาเหนือ ส่วนอาเซียนสัดส่วนรายได้ประมาณ 10%” นายฮิโรชิกล่าวในตอนท้าย
ด้าน นายโคจิ ชินโจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาสิโอ มาร์เก็ตติ้ง ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ จะดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ในประเทศไทย คือ กลุ่มเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง หรือ “ซีเอ็มจี” และบริษัท อิสท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้ดูแลผลิตภัณฑ์ต่างๆ คือ นาฬิกาแบรนด์จีช็อก, เบบี้จี, อีดิเฟียส, ชีน, โอเชียนัส, โปร เทร็ค และคาสิโอ
นอกจากนี้ ยังดูแลกล้องดิจิตอลคอมแพกต์สำหรับเซลฟี, แกรนด์เปียโนและคียบอร์ดแบบไฮบริดดิจิตอล เซลเวียโน และพรีเวีย, เครื่องคิดเลขทั่วไป, เครื่องคิดเลขวิทยาศาสตร์แบบกราฟิก, เครื่องพิมพ์ฉลาก, เครื่องโปรเจกเตอร์แอลอีดี แบบเลเซอร์ไฮบริด และเครื่องบันทึกเงินสดระบบพีโอเอส