ธปท.คาดจีดีพีปีนี้น่าจะขยายตัวได้ 3.5% โดยจะมีการประกาศตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้งในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ ยืนยันไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด แม้เงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ในระดับต่ำ พร้อมเปิดตัวเลขปี 58 ส่งออกติดลบ 5.6% ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 34,839 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงเป็นประวัติการณ์
นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2559 จะอยู่ที่ร้อยละ 3.5 จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ โดยจะมีการประกาศตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้งในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ขณะที่การส่งออกปี 2558 ติดลบร้อยละ 5.6 จากราคาสินค้าหลายชนิดที่หดตัวตามราคาน้ำมันในตลาดโลก และปริมาณที่หดตัวตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และอาเซียนเป็นหลัก ส่วนการนำเข้าปี 2558 ติดลบร้อยละ 11.3 โดยหดตัวในทุกหมวดสินค้า ยกเว้นสินค้าทุนตามราคาน้ำมันดิบที่หดตัวสูง และกิจกรรมการผลิตที่ชะลอตัวลงตามการส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัว
ส่วนดุลการค้า ปี 2558 เกินดุล 34,593 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 34,839 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยในส่วนที่เกินดุลมา 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้นเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ลดลง ขณะเดียวกัน ในปีที่ผ่านมาไทยมีการนำเข้าน้ำมันค่อนข้างน้อย และการลงทุนยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากกำลังการผลิตยังเหลืออยู่มาก
สำหรับเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2558 เริ่มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปัจจัยหนึ่งมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การขยายตัวของภาคบริการ และการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัว
ด้านภาวะเศรษฐกิจเดือนธันวาคม 2558 เริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกจากการใช้จ่ายในประเทศที่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ทั้งการใช้จ่ายภาครัฐ และการบริโภคภาคเอกชนที่ส่วนหนึ่งได้รับผลบวกจากการเร่งซื้อรถยนต์ก่อนการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต และมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงก่อนปีใหม่ ทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมกระเตื้องขึ้น นอกจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การใช้จ่ายภาครัฐในเดือนธันวาคม 2558 โดยเฉพาะรายจ่ายลงทุนที่ไม่รวมเงินอุดหนุนขยายตัวร้อยละ 44.1 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปัจจัยหลักมาจากการเร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง และชลประทานของประเทศ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนการบริโภคภาคเอกชนมีทิศทางปรับดีขึ้นต่อเนื่อง โดยคาดว่าการบริโภคภาคเอกชนในช่วงต้นปี 2559 อาจแผ่วลงบ้าง จากการที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี 2558 ที่อนุญาตให้นำค่าใช้จ่ายการซื้อสินค้า และบริการคนละไม่เกิน 15,000 บาท มาลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ชั่วคราวที่หมดลง ประกอบกับการเร่งซื้อรถยนต์เพิ่มรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้สถาบันการเงินที่คาดว่าความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 จะลดลง
