ธปท. เผยภาวะ ศก.ไทย เดือน ต.ค. ฟื้นแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมจับตา 3 ปัจจัยเสี่ยง อาจกระทบภาวะ ศก. ที่กำลังฟื้นตัว ระบุ เม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าสุทธิครั้งแรกรอบ 6 เดือน แต่ตัวเลขสุทธิทั้งปีคาดว่าจะยังคงไหลออก
นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจเดือนตุลาคมฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป และฟื้นตัวแบบกระจุกตัวบางภูมิภาค แต่ยังเปราะบาง หากมีเหตุการณ์มากระทบอาจทำให้การฟื้นตัวชะงักได้ โดยปัจจัยเสี่ยงสำหรับเศรษฐกิจไทย คือ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนและอาเซียน ความผันผวนของตลาดการเงินโลก และ ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ปัญหาการก่อการร้าย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามใกล้ชิด
ส่วนปัจจัยหนุนมาจากการใช้จ่ายภาครัฐที่มีการเบิกจ่ายสูง ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวจากการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าที่จำเป็นและบริการ แต่ภาคครัวเรือนยังระมัดระวังการใช้จ่ายจากสัญญาณการซื้อสินค้าคงทนยังต่ำ แต่มีปัจจัยชั่วคราว คือ การเร่งซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคบางกลุ่ม ก่อนการปรับภาษีสรรพสามิตรถยนต์วันที่ 1 มกราคม 2559
นางรุ่ง กล่าวว่า เริ่มเห็นสัญญาณความเชื่อมั่นผู้บริโภคมีทิศทางดีขึ้น ซึ่งเป็นผลบวกมาจากการประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเร่งการลงทุนของภาครัฐ ทำให้ภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง เริ่มมีทิศทางดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเมื่อสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวชัดเจน การลงทุนของภาคเอกชนจะตามมา ดังนั้น ต้องติดตามว่าการลงทุนภาครัฐจะเกิดขึ้นได้ตามแผนหรือไม่
ส่วนภาคการส่งออกยังหดตัวร้อยละ 8 จากการชะลอตัวของจีนและอาเซียนที่เป็นคู่ค้าสำคัญ ราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันยังต่ำ และมีการเร่งการส่งออกตั้งแต่ปีที่แล้วก่อนที่ไทยจะถูดตัดสิทธิพิเศษทางการค้า (จีเอสพี) จากสหภาพยุโรป (อียู) ทำให้การนำเข้ายังต่ำ ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 5,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวม 10 เดือน ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลสูงถึง 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 เดือน นับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2557
นางรุ่ง กล่าวว่า เดือนตุลาคมมีการไหลเข้าสุทธิของเงินลงทุนในหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาติเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีท่าทีเลื่อนเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ทั้งปีคาดว่าเงินทุนเคลื่อนย้ายสุทธิยังไหลออก