สศค.คาด GDP ปี 59 ฟื้นตัวมาโตในช่วง 3.2-4.2% จากระดับ 2.8% ในปี 58 สำหรับการประมาณการเศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เช่น ความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอ่อนแอ
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวประมาณการเศรษฐกิจไทย ณ เดือน ม.ค.59 โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยในปี 58 คาดว่าจะสามารถขยายตัวได้ 2.8% เร่งขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ขยายตัว 0.9% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการใช้จ่ายภาครัฐที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 4/58 ตลอดจนมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร และบรรเทาผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง
นอกจากนี้ การขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวในเกณฑ์สูงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ด้านการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวจากปีก่อนหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยได้รับอานิสงส์จากมาตรการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของภาครัฐ ประกอบกับเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยจะส่งผลให้ปริมาณการส่งออกสินค้า และบริการปรับลดลงต่ำกว่าที่คาดการณ์ครั้งก่อน
ส่วนเศรษฐกิจไทยในดือน ธ.ค.58 และไตรมาส 4/58 สะท้อนการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศ ทั้งจากการบริโภค และการลงทุนภาคเอกชน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ก.ย.58 เป็นต้นมา อีกทั้งการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยเฉพาะรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องในระดับสูง ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจที่สำคัญ
อย่างไรก็ตาม การส่งออกสินค้าของไทยยังคงหดตัวต่อเนื่อง สะท้อนภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทยที่ยังชะลอตัว ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในปี 59 นี้ต่อไป
ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 58 อยู่ที่ -0.9% ลดลงจากปีก่อนหน้าตามราคาน้ำมัน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่ลดลงมาก ส่วนเศรษฐกิจไทยในปี 59 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราเร่งขึ้น
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยปี 59 จะได้รับอานิสงส์จากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ เช่น โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวประชารัฐ ที่รัฐบาลสนับสนุนเงินทุนให้แก่กองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง จำนวน 79,556 กองทุน กองทุนละไม่เกิน 500,000 บาท ภายใต้วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี 59 สามารถขยายตัว 3.7% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.2-4.2%)
นอกจากนี้ ยังได้รับแรงส่งของการลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากโครงการลงทุนยกระดับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านการคมนาคมขนส่ง และกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุนในปี 59 ที่เพิ่มขึ้น ในด้านเสถียรภาพภายในประเทศ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 58 จะอยู่ที่ 0.3% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ -0.2 ถึง 0.8%) ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนตามแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ในระดับต่ำตามแนวโน้มราคาพลังงานที่ส่งผลให้แรงกดดันด้านต้นทุนลดลง
“สำหรับการประมาณการเศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เช่น ความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอ่อนแอ”