หุ้นที่เกี่ยวข้องต่อสินค้าโภคภัณฑ์ถือเป็นหุ้นที่มีความผันผวนสูง เนื่องจากมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องต่อราคาหุ้นค่อนข้างมาก โดยเฉพาะปัจจัยจากต่างประเทศ โดยหุ้นประเภทนี้จะมีคุณลักษณะดังนี้
หนึ่ง..มีรอบของการเล่น คือ มีเทรนด์ที่ค่อนข้างชัดว่ากำลังเป็นขาขึ้น หรือขาลง น้อยครั้งนักที่ราคามีแนวโน้มไซด์เวย์ หากเข้าไปลงทุนในช่วงที่ราคาเป็นช่วงต้นของขาขึ้นได้จะทำผลตอบแทนได้อย่างดี แต่ถ้าเข้าไปลงทุนในช่วงที่เป็นขาลงอาจจะสร้างความเสียหายได้เป็นอย่างมาก
สอง..ขึ้นแรง ลงแรง ธรรมชาติของสินค้าโภคภัณฑ์จะมีการเหวี่ยงตัวสูง สามารถขึ้นลงได้ครั้งละ 3-5% ขึ้นไป เนื่องจากส่วนมากมีการซื้อขายในตลาดล่วงหน้าซึ่งมีการเก็งกำไรค่อนข้างสูง
สาม..การเปลี่ยนแปลงของราคาขึ้นอยู่กับดีมานด์ซัปพลาย หากความต้องการในตลาดโลกกับปริมาณการผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ไม่สัมพันธ์กัน จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของราคา เช่น มีความต้องการในตลาดสูงแต่มีปริมาณการผลิตต่ำจะทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น แต่ถ้ามีความต้องการน้อยแต่มีการผลิตสูงจะทำให้ราคาลดลง
ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันมีหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ให้เล่นอยู่หลายกลุ่มด้วยกัน ไปดูกันว่ามีกลุ่มไหนบ้าง และมีวิธีการเก็งกำไรอย่างไร
หุ้นกลุ่มขุดเจาะและจำหน่ายน้ำมัน ประกอบไปด้วยหุ้น PTT, PTTEP ตัวแปรสำคัญคือ ราคาน้ำมัน หากราคาน้ำมันลดลงจะส่งผลลบโดยตรง โดยอาจทำให้เกิดผลขาดทุนจาก Stock Loss (ราคาสินค้าที่สต๊อกเก็บไว้ต่ำกว่าราคาในตลาด)
หุ้นกลุ่มโรงกลั่น ประกอบไปด้วย TOP, SPRC ตัวแปรก็คือราคาน้ำมันเช่นกัน แต่หากราคาน้ำมันไม่สูงมากจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มนี้เนื่องจากจะได้ค่าการกลั่นที่ดีขึ้น กำไรจะสูงขึ้น
หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี ประกอบไปด้วย PTTGC, IRPC, IVL ตัวแปรคือ ราคาน้ำมันเช่นกัน ถ้าหากราคาน้ำมันลดลง ต้นทุนการผลิตปิโตรเคมีจะลดลง ทำให้ผู้ประกอบการมีอัตรากำไรดีขึ้น
หุ้นกลุ่มเหล็กและโลหะ เช่น SSI, TSTH ต้องจับตาราคาเหล็กในตลาดโลก รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ หากมีการเติบโตดีก็จะมีความต้องการเหล็กที่มากขึ้น จะส่งผลให้ราคาเหล็กปรับตัวดีขึ้น
หุ้นกลุ่มเดินเรือ เช่น TTA, PSL มีดัชนีชี้วัดคือ ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) หากปรับตัวสูงขึ้นก็จะทำให้อัตรากำไรของผู้ประกอบการเดินเรือสูงขึ้น ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงก็คือ เศรษฐกิจโลกหากมีการเติบโตก็จะมีการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศมากขึ้น ดัชนีค่าระวางเรือก็จะปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
หุ้นกลุ่มยางพารา เช่น TRUBB, STA ถือเป็นหุ้นกลุ่ม Soft Commodity หรือสินค้าเกษตร การเปลี่ยนแปลงของราคาขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจรวมไปถึงสภาวะอากาศ เนื่องจากมีผลต่อการเพาะปลูก
หุ้นกลุ่มปาล์มน้ำมัน ถั่วเหลือง เช่น TVO, UPOIC, CPI, LST, UVAN ถือเป็นหุ้นกลุ่มสินค้าเกษตรด้วยเช่นกัน
สิ่งสำคัญในการลงทุนหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์คือ ต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด รู้ว่าดัชนีชี้วัดของหุ้นแต่ละกลุ่มคืออะไร และต้องลงทุนในช่วงที่เป็นขาขึ้นในลักษณะของการเก็งกำไรเท่านั้น
Super Trader Team
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง