ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้น 11ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือคิดเป็น 1.03% ปิดที่ระดับ 1,076 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยเป็นแรงซื้อเก็งกำไร เนื่องจากราคาทองปรับลงแรงจากการที่เฟดมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมช่วง 15-16 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% อยู่ในช่วง 0.25-0.50% + แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงได้กระตุ้นให้มีแรงซื้อเข้ามาในทองคำด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม จากแรงกดดันรายงานตัวเลขจีดีพีขั้นสุดท้ายสำหรับไตรมาส 3 ของปีนี้ขยายตัว 2.0% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด + ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในเดือน ธ.ค.แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน + รายงานยอดขายบ้านใหม่ปรับเพิ่มขึ้นในเดือน พ.ย. รวมถึงรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงต่ำกว่าคาดจะทำให้นักลงทุนลดการลงทุนในทองคำ และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อราคาทองคำ
ปัจจัยที่น่าติดตาม
29 ธ.ค. สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือน ต.ค. / ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.
30 ธ.ค. สหรัฐฯ เปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือน พ.ย.
31 ธ.ค. สหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ / ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือน ธ.ค.
แนวโน้มพักตัวก่อนขึ้นรอบใหม่
แนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค
ราคาทอง อยู่ในช่วงพักตัวออกข้างหลังปรับขึ้นมาแรงจากฐาน W-SHAPE อย่างไรก็ตาม การพักตัวอยู่ในกรอบช่วงแขนรูปแบบขึ้น BULLISH FLAG โดยมีแนวรับเส้น 5 และ 10 วัน รองรับอยู่ ทำให้ราคาแนวโน้มพักตัวลงกรอบแคบเท่านั้นเพื่อสร้างฐานก่อนปรับขึ้นรอบใหม่ตามแนวขึ้นที่ยังคงอยู่ แนวรับ 1,055/1,060 แนวต้าน 1,090/1,095