xs
xsm
sm
md
lg

ราคาทองดิ่ง : ความจริงที่หนีไม่พ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กมลธัญ  พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ และผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด
เปิดต้นสัปดาห์มานักลงทุนทองคำก็คงเครียดกันไปตามๆ กันนะครับ หลังจากที่ราคาทองคำดิ่งลงไปกว่า 2%

จนทำให้ราคาทองคำทำจุดต่ำสุดในรอบ 6 ปีและดูมีแนวโน้มที่จะย่อตัวลงต่ออีกด้วย

หลังจากที่มีประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ถูกพูดถึงหนาหูเรื่อยๆ เข้ามากดดันราคาทองคำ ยิ่งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องแบบนี้ การที่จะเห็นราคาทองคำดิ่งตัวลงต่อก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ซึ่งหากดูจากการปรับตัวลงของราคาทองคำครั้งนี้นั้นก็อาจเป็นอีกความจริงที่เรานักลงทุนหนีไม่พ้นก็เป็นได้

หากยังจำกันได้ ช่วงปี 2551 นั้น เศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญต่อวิกฤตซับไพรม์ซึ่งเป็นผลมาจากหนี้ที่ด้อยคุณภาพ และตราสารอนุพันธ์ที่มีผลตอบแทนที่ไม่สอดคล้องต่อความเสี่ยง จนทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอยอย่างหนัก อัตรคาว่างงานเพิ่มสูงขึ้น ราคาบ้านดิ่งตัวลง

ค่าเงินดอลลาร์ดิ่งลงหนุนให้ราคาทองคำที่เคลื่อนไหวตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่จะช่วยหนุนราคาทองคำแล้ว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ FED ทยอยออกมาเพื่อหวังให้เศรษฐกิจฟื้นตัวก็เป็นอีกตัวเร่งชั้นดีหนุนราคาทองคำอีกทาง ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยลงต่ำถึงขีดสุด การดำเนินมาตรการ QE ที่มีผลให้ทั้งค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และสภาพคล่องที่ล้นระบบ ซึ่งหากลองวิเคราะห์ดูแล้วราคาทองคำที่พุ่งขึ้นพรวดพราดในตอนนั้นล้วนมาจากความไม่ปกติของทางระบบเศรษฐกิจทั้งการชะลอตัวอย่างหนัก และมีการระดมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะบางมาตรการที่ค่อนข้างสุดโต่งอย่างมาตรการ QE และการลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 0.25% การดิ่งลงของราคาทองคำในช่วงนี้อาจเป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ย้ำให้นักลงทุนทุกคนเข้าใจว่า หากระบบเศรษฐกิจเผชิญต่อความไม่ปกติแล้ว ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร จะต้องมีการปรับตัวเพื่อให้เข้าสู่ดุลยภาพอีกครั้งไม่ว่าช้าหรือเร็ว การดิ่งลงของราคาทองคำเป็นเพียงผลข้างเคียงของการปรับตัวดังกล่าวนั่นเอง


กมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ และผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด
กำลังโหลดความคิดเห็น