สรุปผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ประเด็นที่ถูกพูดถึงในวงกว้างคงหนีไม่พ้นการคาดการณ์ถึงการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเอฟโอเอมซี รอบสุดท้ายของปีนี้ที่คาดหมายกันว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยสถาบันชั้นนำอย่างรอยเตอร์ หรือบลูมเบิร์กเองต่างทำโพลซึ่งออกมาไม่แตกต่างกันคือ น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ล่าสุดการรอคอยได้จบสิ้นลง เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับระหว่าง 0.25-0.50% โดยให้เหตุผลว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวได้ดี และน่าจะเป็นแบบนี้ต่อไป ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้นเล็กน้อยเป็นสิ่งที่เหมาะสม และเฟดยังเปิดเผยว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และเฟดจะให้ความสำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อในการตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินต่อไป
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ราคาทองคำปรับตัวขึ้น ซึ่งอาจสร้างความสงสัยให้แก่นักลงทุนบางคน เพราะตามความเข้าใจนั้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยควรทำให้ราคาทองคำปรับตัวลง แต่ในความเป็นจริงจะเห็นได้ว่าตลาดได้ตอบกระแสข่าวนี้ไปพอสมควรแล้ว สอดคล้องต่อทฤษฎีการคาดการณ์ คือ ตลาดได้ตอบรับข่าวไปล่วงหน้า และเมื่อย้อนกลับดูสถิติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเราจะพบความจริงที่ว่า ราคาทองคำมักจะปรับตัวลงในช่วงก่อนหน้าที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะปรับตัวขึ้นภายหลังจากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะ 2 รอบล่าสุดของวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ราคาทองคำปรับตัวลงก่อนหน้า 3 เดือนถึง 6.6% ก่อนที่จะปรับตัวขึ้น ภายหลังจาก 3 เดือน และหลังจากนั้น 12 เดือน ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้น 10.4% อย่างไรก็ตาม สถิติดังกล่าวไม่ได้ยืนยันว่าอนาคตจะต้องเป็นไปตามเดิม ผู้เขียนเอามาให้ดูเพื่อเป็นข้อมูลอีกชิ้นหนึ่งก็เท่านั้นเอง
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ประเด็นที่ถูกพูดถึงในวงกว้างคงหนีไม่พ้นการคาดการณ์ถึงการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเอฟโอเอมซี รอบสุดท้ายของปีนี้ที่คาดหมายกันว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยสถาบันชั้นนำอย่างรอยเตอร์ หรือบลูมเบิร์กเองต่างทำโพลซึ่งออกมาไม่แตกต่างกันคือ น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ล่าสุดการรอคอยได้จบสิ้นลง เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับระหว่าง 0.25-0.50% โดยให้เหตุผลว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวได้ดี และน่าจะเป็นแบบนี้ต่อไป ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้นเล็กน้อยเป็นสิ่งที่เหมาะสม และเฟดยังเปิดเผยว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และเฟดจะให้ความสำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อในการตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินต่อไป
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ราคาทองคำปรับตัวขึ้น ซึ่งอาจสร้างความสงสัยให้แก่นักลงทุนบางคน เพราะตามความเข้าใจนั้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยควรทำให้ราคาทองคำปรับตัวลง แต่ในความเป็นจริงจะเห็นได้ว่าตลาดได้ตอบกระแสข่าวนี้ไปพอสมควรแล้ว สอดคล้องต่อทฤษฎีการคาดการณ์ คือ ตลาดได้ตอบรับข่าวไปล่วงหน้า และเมื่อย้อนกลับดูสถิติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเราจะพบความจริงที่ว่า ราคาทองคำมักจะปรับตัวลงในช่วงก่อนหน้าที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะปรับตัวขึ้นภายหลังจากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะ 2 รอบล่าสุดของวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ราคาทองคำปรับตัวลงก่อนหน้า 3 เดือนถึง 6.6% ก่อนที่จะปรับตัวขึ้น ภายหลังจาก 3 เดือน และหลังจากนั้น 12 เดือน ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้น 10.4% อย่างไรก็ตาม สถิติดังกล่าวไม่ได้ยืนยันว่าอนาคตจะต้องเป็นไปตามเดิม ผู้เขียนเอามาให้ดูเพื่อเป็นข้อมูลอีกชิ้นหนึ่งก็เท่านั้นเอง
