“เอเซีย พลัส” มั่นใจผลงาน Q4/58 ดีกว่า Q3 เล็งซื้อกิจการเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจอื่น ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในปี 59 เชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามภาวะตลาดที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น
นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการ แต่ยังไม่สามารถระบุมูลค่ากิจการ หรือประเภทของกิจการ แต่เห็นว่าการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอื่นๆ ให้ขึ้นไปที่ระดับ 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 42% ภายในปี 60
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4/58 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 3/58 เนื่องจากปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยมีทิศทางดีขึ้น โดยคาดว่าค่าคอมมิชชันจะไม่ต่ำกว่าระดับปัจจุบันที่ 0.18% ขณะที่บริษัทไม่มีนโยบายการแข่งขันด้านราคา แต่จะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุน
สำหรับงานวาณิชธนกิจของกลุ่มบริษัทในปัจจุบันมีดีลในมือทั้งสิ้น 48 ดีล แบ่งเป็นงานนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยการขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 24 บริษัท โดยเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นปีนี้ 2 บริษัท ได้แก่ บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) ที่จะเสนอขายหุ้น IPO ในช่วงสัปดาห์นี้ และ บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไปแล้ว ส่วนที่เหลือจะทยอยเข้าจดทะเบียนใน 3-4 ปีข้างหน้า แต่จะมีหุ้น IPO เข้าตลาดหุ้นมากที่สุดในปี 60
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในปี 59 เชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามภาวะตลาดที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามภาวะเศรษฐภายในประเทศ คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ชัดเจน
ขณะที่ยังต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจของต่างประเทศด้วย เช่น เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว เศรษฐกิจของสหภาพยุโรป และญี่ปุ่นก็ปรับตัวดีขึ้น
สำหรับเศรษฐจีน ยังอยู่ในภาวะประคองตัว แต่ก็ถือว่ามีอัตราเติบโตอยู่ในระดับสูง รวมถึงยังต้องติดตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยหากราคาฟื้นตัวขึ้นมาก็จะสะท้อนถึงภาพรวมการบริโภคที่ฟื้นตัวขึ้น