คราวที่แล้วผมได้คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยในปีหน้าไว้คร่าวๆ ว่า น่าจะยังไม่ไปไหนได้ไกลนักเพราะเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงอีกมาก และการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยังไม่รู้ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน คราวนี้เรามาดูภาพของเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นไทยในระยะยาว 3-5 ปีข้างหน้ากันบ้าง
สั้นๆ ก่อน ผมคิดว่าหุ้นไทยจะไปได้ไม่ไกลอีกเช่นกัน ตราบใดที่เรายังไม่สามารถก้าวผ่านสิ่งที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟังนี้ไปได้
ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม TIP ประกอบไปด้วยไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นกลุ่มที่นักลงทุนต่างชาติใช้เหมารวมในการตัดสินใจลงทุน กล่าวคือ หากจะเข้ามาซื้อหุ้นก็จะเข้ามายัง 3 ประเทศนี้พร้อมๆ กัน ถ้าจะขายหุ้นก็จะขาย 3 ประเทศนี้พร้อมกัน ความเห็นส่วนตัวของผมประเทศไทยไม่สมควรถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มนี้เลย
เพราะอะไร? ผมคิดว่าประเทศไทยเดินมาไกลเกินกว่าจะไปเทียบกับอินโดนีเซีย หรือฟิลิปปินส์ได้ ถ้าผู้อ่านเคยไป 2 ประเทศนี้น่าจะรู้สึกแบบผม คือ แม้หลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของ 2 ประเทศนี้จะเติบโตโดดเด่น บางปีโตมากกว่าจีนด้วยซ้ำ แต่พื้นฐานทางเศรษฐกิจไม่สามารถสู้ไทยได้เลย ยกตัวอย่างง่ายๆ รถไฟฟ้าก็ยังไม่มี สนามบินก็โทรมกว่าเรามาก แต่สิ่งที่เติบโตอย่างมากคือ กำลังซื้อของประชาชนเขาดีขึ้นมาก สินค้าแบรนด์ดังๆ ระดับโลกก็เข้าไปเปิดกิจการพร้อมๆ กับไทย
2-3 ปีมานี้ จีดีพีอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ขยายตัว 5-7% ส่วนไทยโตเพียง 3% ไม่สมศักดิ์ศรีประเทศกำลังพัฒนาเลย ถ้าเป็นประเทศที่เศรษฐกิจโตเต็มที่แล้วอย่างยุโรป สหรัฐฯ ตัวเลข 3% ถือว่าปกติ แต่ถ้าเป็นประเทศกำลังพัฒนาผมว่าน้อยเกินไป
ในขณะที่ประเทศที่เป็นคู่แข่งกับเรา อย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย เขามีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ใกล้เคียง หรือดีกว่าเราด้วยซ้ำ การแข่งขันทางด้านการค้าเรายังไม่สามารถที่จะสู้กับเขาได้ โดยเฉพาะเรื่องของ “นวัตรกรรม” เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ของมาเลเซียเขาได้ผลิตสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงกว่าไทย ขณะที่ไทยยังเป็นสินค้าพื้นฐานอยู่เลย หรือแม้แต่สินค้าเกษตรอย่าง ปาล์ม ยางพารา มาเลเซียก็มีการพัฒนาให้มีมูลค่าสูงกว่าเรา ไม่ต้องไปพูดถึงประเทศอย่างเกาหลีใต้ ฮ่องกง ไต้หวัน ที่เขาไปไหนต่อไหนแล้ว คงจะก้าวไปไกลกว่าเราหลายก้าวแล้ว
ผมยังมองไม่ออกเลยว่าประเทศไทยจะจัดตัวเองให้มีที่ยืนอยู่ตรงไหนของเศรษฐกิจโลก ไอ้ครั้นจะลงไปแข่งกับอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ หรือแม้แต่เวียดนาม มันก็ไม่สมควรแล้ว (แต่กลับกลายเป็นว่าประเทศพวกนี้จีดีพีโตกว่าเรามาก) ขณะที่คู่แข่งข้างบนอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย ก็หนีเราออกไปเรื่อยๆ
ที่น่ากลัวคือ ประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุเร็วเกินคาดเสียอีก นี่คือตัวฉุดความสามารถในการแข่งขันอย่างมาก เพราะแรงงานที่สร้างรายได้มีจำนวนน้อยลง แถมยังมีภาระต้องเลี้ยงดูผู้สูงอายุ ที่เจ็บใจคือ เราจะเป็นประเทศผู้สูงอายุในขณะที่ยังเป็นประเทศกำลังพัฒนานี่สิ ขณะที่ประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น เขาเป็นประเทศพัฒนาแล้วยังมีปัญหาในการเลี้ยงดูผู้สูงอายุเลย
ถ้าหุ้นไทยจะไปได้ไกลกว่านี้ จีดีพีไม่ควรจะโตในระดับ 3% อีกต่อไป มันควรต้องโตระดับ 4-5% แต่ก็ยังมองไม่ออกเลยนะว่าอะไรคือตัวผลักดันให้เศรษฐกิจไทยจะไปได้ถึงจุดนั้น ถ้าจะพอมีก็หวังว่าประเทศในย่าน CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) จะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุน และไทยก็ก้าวไปลงทุนประเทศเหล่านี้ให้เศรษฐกิจมีการเติบโตได้
สรุปคือ ถ้าเศรษฐกิจไทยยังไม่สามารถก้าวผ่านสิ่งที่ผมวิเคราะห์เอาไว้ได้ก็ยากที่หุ้นไทยจะไปได้ไกลครับ คือ ยังมีการเติบโตแต่ก็ไม่ร้อนแรง เรานักลงทุนได้แต่หวังว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเติบโตได้มากกว่านี้นะครับ
นเรศ เหล่าพรรณราย
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง