บิ๊กวิจิตราฯ เผยภาพรวมอสังหาฯ ครึ่งปีหลังยังทรงตัว ดีมานด์แนวราบยังซื้ออยู่จริง ระบุได้เปรียบผู้ประกอบการรายอื่นมีต้นทุนที่ดินถูกสะสมหลายแปลงใน 4 จังหวัดโซนตะวันออก จ่อผุด 5 โครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์ “มารวย” และ “วิคทอเรีย ไพรเวท ซิตี้” ใน 3 จังหวัด รวมมูลค่า 2,000 ล้านบาท โชว์ยอดขายครึ่งปีแรกเป็นไปตามเป้า 500 ล้านบาท มั่นใจโครงสร้างบ้านทุกหลังไร้ปัญหา ตอกเสาเข็มลึก 23-25 เมตร
ดร.สืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิจิตรา กรุ๊ป จำกัด กล่าวยอมรับว่า ครึ่งปีหลังตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังทรงตัว โดยตลาดแนวราบยังมีกำลังซื้อที่ดีอยู่แต่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับตลาดคอนโดมิเนียม เนื่องจากการซื้อบ้านแนวราบส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ไม่ซื้อเพื่อเก็งกำไร เพราะสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่โครงการที่บริษัทวิจิตราฯ ลงทุนจะมีความได้เปรียบ เพราะบริษัทฯ มีที่ดินสะสมอยู่หลายแปลง ทั้งในจังหวัดสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และสระแก้ว ซึ่งบริษัทมีความชำนาญในการพัฒนาโครงการแนวราบ ดังนั้น จึงไม่ต้องแบกรับภาระต้นทุนเหมือนผู้ประกอบการรายอื่นๆ
ดร.สืบวงษ์ กล่าวเพิ่มเติม ถึงกรณีที่ในช่วง 1-2 ปีนี้ที่มีผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งจากธุรกิจอื่น และธุรกิจอสังหาฯ เข้าไปซื้อหุ้น เทกโอเวอร์ หรือควบรวมกิจการกับผู้ประกอบการรายเล็ก หรือร่วมการนำโนว์ฮาวที่มีความเชี่ยวชาญคนละด้านมาเสริมความแกร่งธุรกิจซึ่งกันและกันนั้นถือว่าเป็นเทรนด์ปกติของวัฏจักร และยังคงมีให้เห็นอีกอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในครึ่งปีหลังนั้นจะรุกพัฒนา 5 โครงการแนวราบ ภายใต้แบรนด์ มารวย และวิคทอเรีย ไพรเวท ซิตี้ ใน 3 จังหวัด คือ สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และสระแก้ว รวมมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดต่างๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 25-31 สิงหาคม 2558 บริษัทฯ มีแผนจะนำโครงการ “วิคทอเรีย การ์เด้น วิลล์ บางนา-ตราด” ไปออกบูทแนะนำโครงการที่ห้างฯ โลตัส กม.42 จากที่ก่อนหน้าที่ได้ทดสอบพรีเซลไปแล้ว ปรากฏว่า สามารถทำยอดขายได้ประมาณ 25 ล้านบาท
โดยโครงการ “วิคทอเรีย การ์เด้น วิลล์ บางนา-ตราด” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 10 ไร่ จากทั้งหมด 27 ไร่ เป็นทาวน์เฮาส์ ขนาด 18 ตารางวา ราคา 1.59-2.65 จำนวน 124 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 250 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ยอดขายรวมของบริษัทฯ เป็นไปตามเป้าที่วางไว้คือ 500 ล้านบาท จากการเปิดตัว 5 โครงการในต่างจังหวัด และคาดว่าในครึ่งปีหลังยอดขายน่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้เช่นกัน
สำหรับกรณีที่มีที่อยู่อาศัยในโครงการบ้านจัดสรรผู้ประกอบการบางรายเกิดการทรุดตัวนั้นมองว่าอาจจะเกิดความผิดพลาดของตัวบุคคลที่ไม่ใช่นโยบายของบริษัทนั้นๆ เพราะเชื่อว่าทุกบริษัทล้วนต้องการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ ในส่วนของโครงการที่อยู่อาศัยของวิจิตราฯ นั้นจะให้ความสำคัญเรื่องโครงสร้างมาโดยตลอด มีการทดสอบสภาพดินก่อนตอกเสาเข็มทุกครั้ง และมีการตอกเสาเข็มลึก 23-25 เมตร รวมไปถึงการเน้นแนวป้องกันน้ำท่วม ซึ่งจะสามารถสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี