xs
xsm
sm
md
lg

ขรก.บำนาญเฮลั่น ได้รับเงินช่วยค่าครองชีพเพิ่มอีก 4% คลังกำชับแบงก์รัฐช่วยเหลือประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“บัญชีกลาง” จ่ายเงิน ค.ช.บ. เพิ่มอีก 4% เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการครองชีพ ขรก.บำนาญ คาดรับเงินได้ 23 เม.ย.นี้ “รมว.คลัง” กำชับแบงก์รัฐช่วยเหลือรายย่อย เพื่อเป็นช่องทางในการให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มระดับกลาง หากมีปัญหาหนี้เสียให้แต่ละแบงก์พิจารณาตามความเหมาะสม

นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้คำนวณบำนาญที่จะได้รับเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 4 เสร็จครบทุกส่วนราชการ พร้อมทั้งตรวจสอบความถูกต้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมาได้โอนเงินให้ธนาคารต่างๆ เพื่อให้ธนาคารดำเนินการนำเงินเข้าบัญชีของผู้รับบำนาญโดยตรงต่อไป หลังจากที่พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ฉบับที่ 15) พ.ศ. 2558 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว และมีผลย้อนหลังตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557

ทั้งนี้ ผู้รับบำนาญที่จะได้รับเงินเพิ่มครั้งนี้ 545,824 คน โดยเป็นเงินตกเบิกร้อยละ 4 รวม 4 เดือน (ธ.ค.57-มี.ค.58) 1,729 ล้านบาท บวกกับบำนาญอัตราใหม่เดือนละ 11,684 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่จะต้องจ่ายเดือนเมษายนนี้ทั้งสิ้น 13,413 ล้านบาท

“ผู้รับบำนาญจะได้รับเงินบำนาญของเดือนเมษายนอัตราใหม่ คือ เพิ่มร้อยละ 4 แล้ว พร้อมทั้งจะได้รับเงินตกเบิกส่วนเพิ่มร้อยละ 4 อีก 4 เดือน ซึ่งโอนเงินทั้งเงินบำนาญและเงินตกเบิกเข้าบัญชีธนาคารให้ผู้รับบำนาญทุกคนในวันที่ 23 เมษายนนี้ หวังว่าการปรับเพิ่มเงินดังกล่าวให้กับผู้รับบำนาญจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในการครองชีพกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันระดับหนึ่ง”

นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจกำชับกระทรวงการคลังช่วยเหลือรายย่อยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน จึงได้ประชุมกับผู้บริหารธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ทั้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อเป็นช่องทางในการให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มระดับกลาง หากมีปัญหาหนี้เสียให้แต่ละแบงก์พิจารณาตามความเหมาะสม

ทั้งนี้ เห็นได้จากธนาคารออมสินมีโครงการธนาคารประชาชนช่วยปล่อยกู้รายย่อย เอสเอ็มอีแบงก์ร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันสินเชื่อ จึงมอบหมายให้ร่วมกันพิจารณาแนวทางลดภาระค่าค้ำประกัน ส่วน ธอส. มีแผนจัดชั้นลูกหนี้ เพื่อพิจารณาปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยตามกลุ่มลูกหนี้ จึงขอให้แบงก์รัฐช่วยพิจารณาออกโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือรายย่อย

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร หรือนอนแบงก์ ปล่อยสินเชื่อบุคคลคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 28 นับว่ามีประชาชนสนใจใช้บริการสูงถึง 4.8 ล้านราย สินเชื่อคงค้าง 140,000 ล้านบาท โดยมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพียงร้อยละ 2-3 ดังนั้น แบงก์รัฐอาจมีช่องทางช่วยเหลือตามนโยบายของรัฐ

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังพร้อมผลักดันโครงการนาโนไฟแนนซ์ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเตรียมประกาศรายชื่อวันพรุ่งนี้ (22 เม.ย.) 4 ราย หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอรายชื่อให้รัฐมนตรีคลังลงนามอนุมัติ เช่น บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์1979 จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเอซ แคปปิตอล จำกัด ผู้ให้บริการทางด้านการเงินครบวงจรทั้งสินเชื่อเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี สินเชื่อบุคคลเช่าซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ และ บริษัท แมคคาเลกรุ๊พ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น