จีแคปปิตอล พร้อมลุยนาโนไฟแนนซ์ อยู่ระหว่างเตรียมยื่นขอใบอนุญาตจากแบงก์ชาติ คาดเริ่มปล่อยสินเชื่อได้ในไตรมาส 3/2558 เน้นกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีข้อมูลอยู่แล้ว “สันติ หอกิตติกุล” เอ็มดี ย้ำการทำนาโนไฟแนนซ์เป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง High Risk High Return ต้องใช้ความระมัดระวัง ความมั่นใจจากความเชี่ยวชาญในการให้บริการสินเชื่อแก่เกษตรกรมานาน ถือเป็นบริการทางการเงินเสริมแก่ธุรกิจอีกทางหนึ่ง
นายสันติ หอกิตติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร และสินเชื่อส่วนบุคคล ภายใต้แนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคมที่ว่า “ความสำเร็จของลูกค้าคือความสำเร็จของบริษัท” เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมยื่นขอใบอนุญาตการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ (Personal Loan) จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ 60 วัน ซึ่งหากได้รับใบอนุญาตจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ในช่วงไตรมาส 3/2558 ในระยะแรก คาดว่าจะยังคงสร้างรายได้ไม่มากนัก เนื่องจากนาโนไฟแนนซ์เป็นการปล่อยสินเชื่อแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แม้สามารถคิดอัตราดอกเบี้ยได้ถึงร้อยละ 36 ต่อปี แต่เป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง High Risk High Return ดังนั้น ต้องปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวัง บริษัทจึงเน้นกลุ่มลูกค้าเดิมที่เรามีข้อมูล และมีประวัติการชำระเงิน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อลูกค้า และบริษัทฯ ช่วงแรกๆ จะเป็นบริการทางการเงินเสริมของบริษัทเพื่อช่วยเหลือลูกค้าของบริษัทให้มีรายได้เพิ่มจากการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ หากประสบความสำเร็จภายหลังการดำเนินการไประยะหนึ่งจึงจะขยายฐานลูกค้าไปยังฐานลูกค้าใหม่ และพัฒนาให้เป็นธุรกิจหลักของบริษัทต่อไป
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2557 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 59.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.78 จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 42.81 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 186.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 22.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.97 จากปีก่อน ผลการดำเนินงานของบริษัทที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวมาจากการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร และสินเชื่อส่วนบุคคล ตลอดจนการบริหารค่าใช้จ่าย และต้นทุนทางการเงินที่มีต้นทุนลดลง
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2558 ให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2557 ในอัตราหุ้นละ 0.16 บาท ขณะที่บริษัทจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.06 บาท จึงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายสำหรับงวดครึ่งปีหลังจำนวน 0.10 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 20 มีนาคม 2558 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 21 พฤษภาคม 2558
