QH กำไรทรงตัว 3,329 ล้านบาท โต 1% เมื่อเทียบกับปี 56 ส่วนรายได้จากการขายอสังหาฯ 20,153 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% ทำกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 1,060 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%
นางสุวรรณา พุทธประสาท รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH และบริษัทย่อย (บริษัทฯ) ชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2557 บริษัทฯ มีกำไร 3,329.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่มีกำไร 3,307.32 ล้านบาท
ส่วนรายได้จากการดำเนินงานแยกตามประเภทธุรกิจ ได้แก่ 1.รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 20,153 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,676 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่มีรายได้ 18,477 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9%, 2.รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ จำนวน 1,067 ล้านบาท ลดลงจากปี 2556 มีรายได้ 1,222 ล้านบาท หรือลดลง 155 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 13%
3.รายได้อื่น จำนวน 157 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกนของปีก่อนที่มีรายได้อื่นๆ 160 ล้านบาท หรือลดลง 2% รวมรายได้ในปี 2257 จำนวน 21,377 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,378 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2556 ที่มีรายได้รวม 19,999 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 7%
สำหรับรายได้รวม 21,377 ล้านบาท มีรายละเอียดดังนี้ 1.รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 เพิ่มขึ้น จำนวน 1,676 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 ประกอบด้วย รายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดินเพิ่มขึ้น จำนวน 2,799 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 เนื่องจากบริษัทมีการเปิดขายโครงการบ้านใหม่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่รายได้จากการขายหน่วยในอาคารชุดพักอาศัยลดลง 1,123 ล้านบาท หรือลดลง 17% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 เนื่องจากในปี 2557 บริษัทและบริษัทย่อยได้ปิดโครงการคอนโดมิเนียมที่ขายและโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดพักอาศัยให้แก่ลูกค้าหมดแล้ว จำนวน 5 โครงการ คือ คิวเฮ้าส์ คอนโด สุขุมวิท 79, คาซ่า คอนโด รัชดา-ราชพฤกษ์, คาซ่า คอนโด อโศก-ดินแดง, เดอะทรัสต์ เรสซิเด้นซ์ ปิ่นเกล้า และเดอะทรัสต์ เรสซิเด้นซ์ พระราม 3 ขณะที่การรับรู้รายได้ของโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่โอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้ จำนวน 3 โครงการ มียอดรับรู้รายได้ต่ำกว่าโครงการที่ปิดแล้วตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ในปี 2557 บริษัทฯ ได้เปิดขายโครงการบ้านใหม่ จำนวน 22 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 15,534 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่า 8,871 ล้านบาท และปิดโครงการบ้าน และโครงการคอนโดมิเนียมที่ขายหมดแล้ว จำนวน 9 โครงการ และ 5 โครงการตามลำดับ
2.รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการในปี 2557 ลดลง จำนวน 155 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 13% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 เนื่องจากในปี 2557 รายได้จากธุรกิจโรงแรมลดลง จำนวน 162 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 19% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 เนื่องจากการลดลงของลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้าพักอาศัยซึ่งได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง การที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน การบังคับใช้กฎหมายการท่องเที่ยวฉบับใหม่ของจีนที่เกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพแพกเกจทัวร์ของจีน ที่มีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2556 ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวจากประเทศจีนลดลง และการปิดเพื่อปรับปรุงและซ่อมแซมใหญ่อาคารโรงแรม เซนเตอร์ พอยต์ เพลินจิต ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2557 และบริษัทได้ยกเลิกสัญญาเช่าโรงแรมดังกล่าวต่อกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์- II ตั้งแต่เดือนสิ้นเดือนสิงหาคม 2557
นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าสำหรับในปี 2557 เพิ่มขึ้น จำนวน 7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 เนื่องจากราคาค่าเช่าพื้นที่ และอัตราการเช่าพื้นที่โดยรวมทุกโครงการปรับตัวดีขึ้น
3.กำไรจากการขายทรัพย์สินโครงการพักอาศัย ในปี 2557 ลดลง จำนวน 140 ล้านบาท หรือลดลง 100% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 เนื่องจากบริษัทไม่มีการจำหน่ายทรัพย์สินโครงการที่ใช้ในการประกอบกิจการ ขณะที่ในปี 2556 บริษัทได้จำหน่ายทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการโครงการเซนเตอร์ พอยต์ ศาลาแดง ซึ่งประกอบด้วย ที่ดินพร้อมอาคาร งานระบบสาธารณูปโภค ทรัพย์สินติดตรึงตรา เฟอร์นิเจอร์ เครื่องมือ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
4.รายได้อื่น ในปี 2557 ลดลง จำนวน 3 ล้านบาท หรือลดลง 2% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 เนื่องจากบริษัทย่อยมีรายได้จากการรับจ้างบริหารอาคารที่พักอาศัย และโรงแรมลดลง เพราะรายได้จากการรับจ้างดังกล่าวผันแปรตามยอดรายได้ และผลประกอบการของโครงการ หรือโรงแรมที่ลดลง ขณะที่บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้น จำนวน 4 ล้านบาท
ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมปี 2557 บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม จำนวน 1,060 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 117 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 โดยบริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 4 แห่ง ตามรายละเอียดดังนี้ คือ บมจ.โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ 648 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%, กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ควอลิตี้ เฮ้าส์ 129 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%, บมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป 254 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39%, กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ควอลิตี้ เฮ้าส์ โฮเทล แอนด์ เรซิเดนซ์ 29 ล้านบาท ลดลง 9%
