บลจ.กสิกรไทยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในต่างประเทศ มั่นใจเศรษฐกิจโลกยังเติบโตได้ พร้อมโชว์ผลงานลุยจ่ายปันผล 3 กองทุน ได้แก่ K-CHINA กองทุน K-USXNDQ และกองทุน K-GLOBE นักลงทุนเฮรับปันผลพร้อมกันในวันที่ 12 ธันวาคม 2557 นี้
นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในภาพรวมจะสามารถขยายตัวได้ดีขึ้น โดย IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโตได้ 3.80% ในปี 2558 เทียบกับ 3.30% ในปี 2557 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น หรือยุโรป ยังคงมีความเสี่ยงจากการฟื้นตัวได้ล่าช้า ซึ่งหากไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามที่คาดอาจส่งผลทำให้เกิดความผันผวนต่อเศรษฐกิจโลกในภาพรวมได้
ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังคงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดย IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเติบโตได้ประมาณ 3.10% ในปี 2558 แม้จะเป็นตัวเลขที่ไม่สูงมากนัก แต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นๆ ที่ยังคงเติบโตในระดับต่ำ โดยปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกายังมีอยู่บ้าง อาทิ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อความได้เปรียบในการแข่งขันของสหรัฐอเมริกา ทำให้ FED อาจพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำอย่างน้อยจนถึงครึ่งหลังของปี 2558 แม้จะหยุดการอัดฉีดเม็ดเงินตามมาตรการ QE แล้วก็ตาม
ล่าสุด บลจ.กสิกรไทยเตรียมจ่ายปันผลกองทุนต่างประเทศจำนวน 3 กองทุน คิดเป็นมูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้นกว่า 187 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน (K-CHINA) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2557-30 พฤศจิกายน 2557 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดเค หุ้นยูเอส ดัชนีเอ็นดีคิว 100 (K-USXNDQ) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2557-30 พฤศจิกายน 2557 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 1.00 บาทต่อหน่วย
ขณะเดียวกันยังจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดเค โกลบอล อิควิตี้ (K-GLOBE) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2557-30 พฤศจิกายน 2557 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วย ทั้ง 3 กองทุนจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 08.00 น. ของวันที่ 1 ธันวาคม 2557 และมีกำหนดการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวพร้อมกันในวันที่ 12 ธันวาคม 2557 นี้
นอกเหนือจากกองทุนต่างประเทศข้างต้นแล้ว บลจ.กสิกรไทยยังเตรียมจ่ายปันผลสำหรับกองทุนในกลุ่ม ETF คือ กองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) ซึ่งจะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2556-30 พฤศจิกายน 2557 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 8 บาทต่อหน่วย มูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 39.64 ล้านบาท และเตรียมจ่ายปันผลสำหรับกองทุนรวมหุ้นอีก 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดรวงข้าว 3 (RKF3) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2556-30 พฤศจิกายน 2557 ในอัตรา 0.70 บาทต่อหน่วย มูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 75.25 ล้านบาท โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 08.00 น. ของวันที่ 1 ธันวาคม 2557 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 ธันวาคม 2557 เช่นเดียวกัน
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนต่างประเทศทั้ง 3 กองทุนในรอบที่ผ่านมานับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ โดยเฉพาะกองทุน K-USXNDQ ซึ่งในรอบบัญชีที่ผ่านมา (1 มี.ค. 2557-30 พ.ย. 2557) กองทุนดังกล่าวจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นถึง 3 ครั้ง โดยเมื่อนับรวมในครั้งนี้ด้วย รวมแล้วจ่ายในอัตรา 2.75 บาทต่อหน่วย ทำให้เมื่อคิดเป็นอัตราเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี (Dividend Yield) จากการจ่ายทั้งสามครั้งเท่ากับ 21.67% ภายในระยะเวลาเพียง 9 เดือน
ทั้งนี้ เนื่องมาจากดัชนี Nasdaq ได้มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยบวกมาจากตัวเลข GDP ในไตรมาส 3 ของสหรัฐอเมริกาที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 3.90% ด้านตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ล่าสุดบ่งชี้ถึงภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ดูดีขึ้น เช่น ตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ ยอดการจ้างงานภาคเอกชน รวมไปถึงดัชนี ISM ภาคการผลิตที่ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น
ด้านกองทุน K-CHINA มีผลการดำเนินงานที่สามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนประมาณ 2.68% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -0.85%
ขณะที่ระยะเวลา 1 ปีให้ผลตอบแทนประมาณ 4.50% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 3.30% ทั้งนี้ในรอบบัญชีที่ผ่านมา (1 ก.ย. 2557-30 พ.ย. 2557) กองทุนจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้นจำนวน 1 ครั้ง รวมแล้วในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราเงินปันผลเฉลี่ยต่อปี (Dividend Yield) เท่ากับ 2.43%