บลจ.ไทยพาณิชย์เตรียมจ่ายปันผลกองทุนหุ้นไทย-ญี่ปุ่น ชี้ ศก.ญี่ปุ่นมีการเติบโตผลประกอบการแข็งแกร่ง หลังกองทุนในญี่ปุ่นให้น้ำหนักลงทุนหุ้นมากขึ้น
นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนหุ้นที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นญี่ปุ่น จำนวน 3 กองทุน รวมเป็นเงินประมาณ 327 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย จำนวน 2 กองทุน ซึ่งจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผล (SCBDV) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2557 ถึง 31 ตุลาคม 2557 ในอัตราหน่วยละ 0.76 บาท สำหรับการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 17 รวมจ่ายปันผลทั้งสิ้น 14.67 บาทต่อหน่วย นับจากจ่ายเงินปันผลครั้งแรกวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547
ทั้งนี้ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผลจะคัดเลือกลงทุนหุ้นที่มีอัตราการเติบโตในระดับปานกลาง-สูง ฐานะการเงินแข็งแรง สามารถจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง โดยตั้งแต่ต้นปี 2557 จนถึงปัจจุบัน (14 พฤศจิกายน 2557) สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีอยู่ที่ 21.32%
นอกจากนี้ยังจะจ่ายปันผลกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (SCBSE) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2557 ถึง วันที่ 31 ตุลาคม 2557 ในอัตราหน่วยละ 0.50 บาท ซึ่งถือเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 7 รวมจ่ายปันผลทั้งสิ้น 4.66 บาทต่อหน่วย นับจากจ่ายเงินปันผลครั้งแรกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555
โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ เป็นกองทุนที่มีกลยุทธ์การลงทุนด้วยวิธี Active Approach คือ จะคัดเลือกลงทุนในรายหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุดและสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนในขณะนั้น โดยจะใส่น้ำหนักการลงทุนมากน้อยตามความน่าสนใจลงทุนของหุ้นนั้น และกองทุนจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30 ตัว จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงในระดับสูงได้ โดยสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีตั้งแต่ต้นปี 2557 จนถึงปัจจุบัน (14 พฤศจิกายน 2557) อยู่ที่ 20.04%
นายสมิทธ์กล่าวว่า ส่วนกองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น คือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์นิคเคอิ 225 (ชนิดจ่ายปันผล) (SCBNK225D) จะจ่ายเงินปันผลครั้งแรกแก่ผู้ถือหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 11 ตุลาคม 2556 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2557 ในอัตราหน่วยละ 1.00 บาท โดยจะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 นี้ ซึ่งกองทุนเพิ่งเสนอขายให้ผู้ลงทุนได้เพียง 1 ปีเศษเท่านั้น (จดทะเบียนกองทุนวันที่ 11 ตุลาคม 2556)
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังถือว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจในการลงทุน Nikkei 225 ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ตัวเลขฐานเงินเดือนในตลาดแรงงานญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 จึงมองว่าตลาดมีโอกาสปรับขึ้นต่อไปได้จากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง รวมทั้งปัจจัยสำคัญจากการที่กองทุนเงินบำนาญของรัฐบาลญี่ปุ่น (GPIF) ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นมากขึ้น จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นต่อไป โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์นิคเคอิ 225 (ชนิดจ่ายปันผล) สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีตั้งแต่ต้นปี 2557 จนถึงปัจจุบัน (14 พฤศจิกายน 2557) อยู่ที่ 8.43%
สำหรับ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์นิคเคอิ 225 มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ Nomura Nikkei 225 Exchange Traded Fund (กองทุนหลัก) ซึ่งบริหารงานภายใต้ความดูแลของ Nomura Asset Management Co., Ltd. จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ลงทุนในสกุลเงินเยน โดยกองทุนหลักมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีนิคเคอิ 225 และตราสารทุนที่กำลังจะมาเป็นส่วนประกอบของดัชนีนิคเคอิ 225 ในสัดส่วนการลงทุนเดียวกับจำนวนหุ้นในดัชนีนิคเคอิ 225 (Nikkei 225 Index หรือ Nikkei Stock Average) เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ไปในทิศทางเดียวกันหรือใกล้เคียงกับดัชนี โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์นิคเคอิ 225 จะลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนหลักโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่ลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ กองทุนมีทั้งชนิดจ่ายปันผล และชนิดไม่จ่ายปันผล ให้นักลงทุนเลือกลงทุนได้
นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนหุ้นที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นญี่ปุ่น จำนวน 3 กองทุน รวมเป็นเงินประมาณ 327 ล้านบาท ประกอบด้วย กองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย จำนวน 2 กองทุน ซึ่งจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผล (SCBDV) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2557 ถึง 31 ตุลาคม 2557 ในอัตราหน่วยละ 0.76 บาท สำหรับการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 17 รวมจ่ายปันผลทั้งสิ้น 14.67 บาทต่อหน่วย นับจากจ่ายเงินปันผลครั้งแรกวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2547
ทั้งนี้ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผลจะคัดเลือกลงทุนหุ้นที่มีอัตราการเติบโตในระดับปานกลาง-สูง ฐานะการเงินแข็งแรง สามารถจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง โดยตั้งแต่ต้นปี 2557 จนถึงปัจจุบัน (14 พฤศจิกายน 2557) สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีอยู่ที่ 21.32%
นอกจากนี้ยังจะจ่ายปันผลกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (SCBSE) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2557 ถึง วันที่ 31 ตุลาคม 2557 ในอัตราหน่วยละ 0.50 บาท ซึ่งถือเป็นการจ่ายปันผลครั้งที่ 7 รวมจ่ายปันผลทั้งสิ้น 4.66 บาทต่อหน่วย นับจากจ่ายเงินปันผลครั้งแรกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555
โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ เป็นกองทุนที่มีกลยุทธ์การลงทุนด้วยวิธี Active Approach คือ จะคัดเลือกลงทุนในรายหุ้นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุดและสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนในขณะนั้น โดยจะใส่น้ำหนักการลงทุนมากน้อยตามความน่าสนใจลงทุนของหุ้นนั้น และกองทุนจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30 ตัว จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงในระดับสูงได้ โดยสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีตั้งแต่ต้นปี 2557 จนถึงปัจจุบัน (14 พฤศจิกายน 2557) อยู่ที่ 20.04%
นายสมิทธ์กล่าวว่า ส่วนกองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น คือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์นิคเคอิ 225 (ชนิดจ่ายปันผล) (SCBNK225D) จะจ่ายเงินปันผลครั้งแรกแก่ผู้ถือหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 11 ตุลาคม 2556 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2557 ในอัตราหน่วยละ 1.00 บาท โดยจะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 นี้ ซึ่งกองทุนเพิ่งเสนอขายให้ผู้ลงทุนได้เพียง 1 ปีเศษเท่านั้น (จดทะเบียนกองทุนวันที่ 11 ตุลาคม 2556)
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังถือว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจในการลงทุน Nikkei 225 ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ตัวเลขฐานเงินเดือนในตลาดแรงงานญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 จึงมองว่าตลาดมีโอกาสปรับขึ้นต่อไปได้จากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง รวมทั้งปัจจัยสำคัญจากการที่กองทุนเงินบำนาญของรัฐบาลญี่ปุ่น (GPIF) ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นมากขึ้น จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นต่อไป โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์นิคเคอิ 225 (ชนิดจ่ายปันผล) สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีตั้งแต่ต้นปี 2557 จนถึงปัจจุบัน (14 พฤศจิกายน 2557) อยู่ที่ 8.43%
สำหรับ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์นิคเคอิ 225 มีนโยบายการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว (Feeder Fund) ได้แก่ Nomura Nikkei 225 Exchange Traded Fund (กองทุนหลัก) ซึ่งบริหารงานภายใต้ความดูแลของ Nomura Asset Management Co., Ltd. จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ลงทุนในสกุลเงินเยน โดยกองทุนหลักมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีนิคเคอิ 225 และตราสารทุนที่กำลังจะมาเป็นส่วนประกอบของดัชนีนิคเคอิ 225 ในสัดส่วนการลงทุนเดียวกับจำนวนหุ้นในดัชนีนิคเคอิ 225 (Nikkei 225 Index หรือ Nikkei Stock Average) เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ไปในทิศทางเดียวกันหรือใกล้เคียงกับดัชนี โดยกองทุนเปิดไทยพาณิชย์นิคเคอิ 225 จะลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนหลักโดยเฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าสินทรัพย์ที่ลงทุนในต่างประเทศ ทั้งนี้ กองทุนมีทั้งชนิดจ่ายปันผล และชนิดไม่จ่ายปันผล ให้นักลงทุนเลือกลงทุนได้
