หลักทรัพย์บัวหลวงเผยเปิดศักราชใหม่ปี 58 นักลงทุนแห่เก็งกำไร Call DW หุ้นบิ๊กแคปและหุ้นที่ได้ผลดีจากนโยบายภาครัฐ คึกคัก ITD-TRUE-PTT ฮอต พร้อมส่ง DW 35 ตัวลงตลาด 11 ก.พ.นี้ ชู PTT โอกาสทำกำไรรับราคาน้ำมันผันผวน
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant : DW) ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา นักลงทุนแห่เก็งกำไร DW ประเภทสิทธิในการซื้อ (Call Warrant) อย่างคึกคัก ตามทิศทางดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวพุ่งขึ้นรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือ QE ของธนาคารกลางของยุโรป โดยเฉพาะหุ้นบิ๊กแคปซึ่งเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยมีการซื้อขาย Call DW ในสัดส่วนสูงถึง 73% ของปริมาณการซื้อขาย DW ทั้งหมด
สำหรับ DW อ้างอิงหุ้นรายตัวที่ได้รับความนิยมสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) มีสัดส่วนการซื้อขาย 12.9% โดยนักลงทุนสนใจใน Call Warrant เนื่องจากบริษัทกำลังจะเซ็นสัญญารับงานกว่า 3 แสนล้านบาท รวมทั้งมีแผนเข้าร่วมประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐอีกหลายโครงการ อันดับสอง หุ้นบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น (TRUE) มีสัดส่วนการซื้อขาย 10.5% โดย Call Warrant ได้รับความสนใจมากจากการที่ TRUE เตรียมรับรู้รายได้เพิ่ม 1.4 หมื่นล้านบาท จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน TRUEIF ในเดือน มี.ค.นี้ ส่วนอันดับสาม หุ้น PTT ซื้อขายถึง 9.5%
โดยนักลงทุนสนใจทั้ง Call Warrant และ Put Warrant (สิทธิในการขาย) เนื่องจาก PTT ได้รับทั้งปัจจัยบวกและลบ จากการปรับนโยบายโครงสร้างราคาพลังงานของภาครัฐที่ส่งผลดี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลงต่อเนื่องส่งผลด้านลบต่อราคาหุ้น
นอกจากนี้ ณ สิ้นเดือน ม.ค. มีจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงที่ออกมาเสนอขายเพิ่มขึ้นเป็น 100 ตัว จากสิ้นเดือน ธ.ค.57 มีจำนวน 92 ตัว เนื่องจากมีหลักทรัพย์ใหม่ที่เข้ามาคำนวณในดัชนี SET50 รวมทั้งมีการออก DW อิงหุ้นใน SET100 เพิ่ม โดยหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ในเดือน ม.ค. ได้แก่ BAY,GLOW, HANA, KCE, KTIS, SCCC, SGP, SIM ขณะที่ปริมาณการซื้อขาย DW โดยรวมในเดือน ม.ค. อยู่ที่ 914.3 ล้านบาทต่อวัน หรือคิดเป็น 1.9% ของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบลดลงจากเดือนก่อนหน้า 20% โดยบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงยังครองส่วนแบ่งการตลาดเมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสมในเดือน ม.ค.เป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 54.9% และเป็นผู้ออก DW ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นได้รับปัจจัยลบจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ดิ่งลงอย่างรุนแรงและการลอยตัวค่าเงินฟรังก์ของสวิส รวมทั้งช่วงปลายเดือนตลาดได้รับแรงกดดันจากผลการเลือกตั้งของกรีซ ซึ่งพรรคที่ได้รับชัยชนะมีนโยบายต่อต้านแนวทางความช่วยเหลือของธนาคารกลางยุโรปนั้น พบว่า นักลงทุนจำนวนมากได้เข้ามาเก็งกำไรใน DW ประเภท Put ที่อิงกับดัชนี SET50 และ Put DW อิงหุ้นในกลุ่มพลังงาน เช่น PTT และ PTTEP ในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับลดลง รวมทั้งเข้ามาลงทุนใน Put DW กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ หลังจากเครดิตสวิสออกมาลดน้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทยในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา
“หลักทรัพย์บัวหลวงได้ออก DW ที่อ้างอิงดัชนี SET50 มาตั้งแต่เดือน เม.ย. 57 ซึ่งพบว่านักลงทุนให้ความสนใจซื้อขายเป็นจำนวนมาก เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเก็งกำไรและป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน เนื่องจากสามารถทำความเข้าใจได้ง่าย ทั้งนี้ หากนักลงทุนสนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมรวมทั้งขอคำแนะนำแนวทางการลงทุนอย่างปลอดภัยใน SET50 Index DW ได้จาก www.blswarrant.com หรือสอบถามผู้แนะนำการลงทุน” นายบรรณรงค์ กล่าว
สำหรับแนวทางการลงทุนใน SET50 Index DW สำหรับผู้สนใจเริ่มต้นลงทุน นักลงทุนต้องประเมินทิศทางดัชนี SET50 ในช่วงเวลาที่กำหนด จากบทวิเคราะห์ต่างๆ ซึ่งหากคาดการณ์ว่าดัชนี SET50 ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเวลาอันใกล้ ให้เลือกซื้อ Call Warrant ที่อ้างอิงดัชนี SET50 ถ้าคาดว่าดัชนีจะปรับตัวลดลงให้เลือกซื้อ Put Warrant อิงดัชนี SET50 แต่หากมองว่าดัชนีจะทรงตัวให้เลี่ยงลงทุนใน SET50 Index DW
นอกจากนั้น นักลงทุนควรทำความเข้าใจความหมายของสัญลักษณ์เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการลงทุน เช่น S5001C1502A คือ DW ที่อ้างอิงดัชนี SET50 โดยดูจากรหัส 3 ตัวแรก S50 ออกโดยหลักทรัพย์บัวหลวง (01) ปีและเดือนที่ซื้อขาย สุดท้ายคือปี 2015 เดือน ก.พ. (1502) และรุ่นที่ออกเป็น A รวมทั้งแนะนำให้ตรวจสอบกับบริษัทหลักทรัพย์ผู้ออก DW นั้นๆ เพราะอาจอ้างอิงดัชนีไม่เหมือนกัน เช่น หลักทรัพย์บัวหลวงจะอ้างอิง SET50 Index แต่บางบริษัทหลักทรัพย์จะอ้างอิง SET50 Index Futures รวมทั้งนักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลราคาการใช้สิทธิ อายุคงเหลือ ราคาตลาดของ DW และตรวจสอบสถานะของ DW ที่ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถดูข้อมูลต่างๆ เพื่อประกอบการลงทุนได้จากเว็บไซต์ www.blswarrant.com
นายบรรณรงค์ กล่าวอีกว่า บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย ตลอดจนดูแลสภาพคล่องที่สม่ำเสมอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุน โดยล่าสุดได้ออก DW ตัวใหม่ 35 ตัว ได้แก่ AP-C, BCP-C/P, BEC-C/P, CENTEL-C/P. CPF-C/P. CPN-C/P. DELTA-C/P. DTAC-C/P. EARTH-C/P. EGCO-C, MINT-C/P, PTT-C/P, ROBINS-C. S50-C/P,SPALI-C/P,THAI-C/P, TPIPL-C/P. TTA-C/P, TTCL-C, TUF-C/P โดยเข้าซื้อขายพร้อมกันในวันที่ 11 ก.พ. 58 เพื่อรองรับ DW ที่จะครบกำหนดอายุในเดือน ก.พ.นี้
“จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ผันผวน ทำให้ DW ที่อ้างอิงหุ้น PTT ได้รับความสนใจค่อนข้างมากในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหากแนวโน้มราคาน้ำมันยังขึ้นหรือลงแรงๆ เช่นนี้ จะเป็นโอกาสให้นักลงทุนได้จับจังหวะในการเข้ามาเก็งกำไร DW ที่อ้างอิงหุ้น PTT ได้ทั้งสองขาผ่าน Call และ Put” นายบรรณรงค์ กล่าว