“วาย แอล จี” มองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ยังกดดัน และสร้างแรงขายทำกำไรในทองคำ จับตา 2 ปัจจัย สนับสนุนราคาปรับเพิ่ม “ท่าทีของรัฐบาลใหม่กรีซต่อเจ้าหนี้” และความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่จะช่วย ผลักดัน แนะหาจังหวะเก็งกำไรในช่วงบาทอ่อนค่า เหตุช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของพอร์ต
“วรุต รุ่งขำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงราคาทองคำว่า ที่ผ่านมาราคาทองคำพยายามปรับตัวขึ้นไปในระดับสูง เพื่อทดสอบ1,300 เหรียญ/ออนซ์อีกครั้ง แต่ยังไม่มีแรงสนับสนุนมากพอ อีกทั้งยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และถูกกดดันจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำตามเดิม แต่ยังส่งสัญญาณออกมาว่า ยังคงพร้อมที่จะประกาศปรับเพิ่้มอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
“ข่าวสารที่ออกมาทำให้เกิดแรงขายในทองคำ เมื่อราคาปรับตัวขึ้น และหากมองไปที่ตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่าง งานในสหรัฐฯ รอบล่าสุด ก็แสดงถึงความแข็งแกร่งอย่างชัดเจน สอดคล้องที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่าแนว โน้มทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้เกิดแรงขายออกมา”
สิ่งที่ติดตามคือ นโยบาย และการเดินหน้าของพรรคที่ชนะการเลือกตั้งในกรีซ ที่เริ่มมีท่าทีต่อต้านเจ้าหนี้ที่ปล่อยกู้ ซึ่งหากสถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้น จะมีผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำได้รับความนิยม หรือมีแรงซื้อกลับเข้ามา รวมถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในรัสเซียและยูเครน ถือเป็นอีกปัจจัยที่หนุนราคาทองคำปรับตัวในระดับสูงไว้ หลังสหภาพยุโรป (อียู) มีมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียมากขึ้น
“หากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ออกมาดี หรือยังคงสดใส มองว่าจะยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดัน ทิศทางราคาทองคำ”
โดยกลยุทธ์การลงทุน ยังคงเน้นระยะสั้นตามเดิม หลังจากที่ผ่านราคาทองคำอ่อนตัวลง นักลงทุนต้องจับหาจังหวะการดีดตัวขึ้นของราคาทองคำในลักษณะเทคนิเคิล รีบาวนด์ โดยหากไม่สามารถยืนเหนือ 1,280 เหรียญ/ออนซ์ได้ ก็มีโอกาสที่จะย่อตัวลงมาแถว 1,240-1,220 เหรียญ/ออนซ์ยังมีความเป็นไปได้สูง
“เรามองว่าแนวรับสำคัญ 1,220 เหรียญ/ออนซ์ ถือเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง และหากมากพอให้จับตาการดีดตัวขึ้นไป ทดสอบ 1,300 เหรียญ/ออนซ์ หากราคายังไม่สามารถดีดตัวขึ้นยืนเหนือช่วงดังกล่าวได้ การถือสถานะขาย ยังถือว่า
ได้เปรียบ”
ส่วนนักลงทุนในประเทศ ยังต้องจับตาการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าขึ้นมา โดยหากสามารถเปิดสถานะขายได้พอดีกับที่เงินบาทอ่อนค่าขึ้นมา มองว่าจะช่วยให้มีความเสี่ยงต่อการลงทุนที่ค่อนข้างต่ำ