xs
xsm
sm
md
lg

YLG ชี้ทองคำรอสถานการณ์กรีซ และการคว่ำบาตรรัสเซียหนุนราคา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“วายแอลจี” ประเมินทิศทางราคาทองคำปรับขึ้นแค่เฟดไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ชี้หากไม่ถึง 1,200 เหรียญ/ออนซ์ ยังอยู่ในขาลง จับตาสถานการณ์กรีซ และความตึงเครียดในการคว่ำบาตรรัสเซีย เหตุหากรุนแรงจะช่วยผลักดันราคาทองคำ

“วรุต รุ่งขำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำว่า การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเป็นผลมาจากการที่ราคาอ่อนตัวลงมาหลายสัปดาห์ติดต่อกัน และได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังรายงานผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) พร้อมทั้งการแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมายืนยันว่า ในระยะสั้นยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกลง อย่างน้อยก็ไม่เกิดขึ้นในเดือนเมษายน ขณะที่นักวิเคราะห์ได้ปรับคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดออกไปจากเดิมคือ มิถุนายน เป็นกันยายนแทน
 

“ประเด็นดังกล่าวทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง และราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้น แต่ยังปรับขึ้นไม่มากนัก เพราะถ้อยแถลงของประธานเฟดสหรัฐฯ ยังยืนยันว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังอิงอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ อีกทั้งการอ่อนตัวของดัชนีหุ้นในสหรัฐฯ และค่าเงินก็ยังอ่อนตัวไม่มากนัก”
 

ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตา คือ สถานการณ์ความตึงเครียดของกรีซที่ต้องจับตาดูว่า กรีซอาจต้องออกจากยูโรหรือเปล่า และกรีซจะได้รับเงินช่วยเหลือเพื่อมาเสริมสภาพคล่องต่อเศรษฐกิจในประเทศได้หรือไม่ หลังจากที่ยื่นแผนปฏิรูปเศรษฐกิจ แต่เจ้าหนี้กลุ่มไทก้าอาจยังไม่พอใจต่อแผนปฏิรูปดังกล่าว และอาจชะลอแผนอนุมัติให้เงินช่วยเหลือในส่วนที่เหลือเพื่อต่อสภาพคล่องให้กรีซ
 


“ถ้ากรีซถูกบีบให้ออกจากกลุ่มยูโรโซน และไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ เรื่องดังกล่าวอาจสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจให้แก่กลุ่มประเทศในยุโรป และจะมีผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นเดียวกับสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรทะเลดำของรัสเซีย กับประเทศในชาติตะวันตก ดูเหมือนจะตึงเครียดเช่นกัน เมื่อสหภาพยุโรป หรือ EU มีการส่งเสริมมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มาตรการคว่ำบาตรถูกต่ออายุออกไป ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนราคาทองคำไว้”
 

ขณะเดียวกัน ตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ จะเป็นเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่จะมีการประกาศออกมา เช่นเดียวกับตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ อีกทั้งต้องติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯ ที่จะทยอยประกาศออกมา และประมาณการ GDP ไตรมาส 4 ปีก่อน ซึ่งถ้าตัวเลขดังกล่าวออกมาสดใส จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกดดันให้ราคาทองปรับตัวลง
 

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนมองว่า ราคาทองคำพยายามดีดตัวขึ้นหลังปรับตัวลดลงไปอยู่ในระดับทีต่ำสุด แต่โดยรวมถ้ายังไม่สามารถกลับมายืนที่ 1,200  เหรียญ/ออนซ์ได้ แนวโน้มราคาทองคำก็ยังอยู่ในแดนลบเช่นเดิม ดังนั้น ผู้ที่มีการถือครองทองคำไว้หากราคาดีดตัวขึ้นอาจทยอยนำทองคำออกขายในโซนระดับแนวต้าน 1,200 เหรียญ/ออนซ์ หากราคาผ่านไปได้สามารถชะลอการขาย เพื่อไปขายที่แนวต้าน 1,220 เหรียญ/ออนซ์ ขณะที่การย่อตัวของราคาทองคำ มองว่าเป็นโอกาสในการเข้าช้อนซื้อเพื่อขายทำกำไรในช่วงที่ราคาทองคำดีดตัว โดยมีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,130 -1,100 เหรียญ/ออนซ์ และการเคลื่อนไหวของเงินบาทยังมีทิศทางที่อ่อนค่าขึ้น จากการแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจพยุงราคาทองคำในประเทศไว้ให้อ่อนตัวลงได้ไม่มากนัก
กำลังโหลดความคิดเห็น