รอยเตอร์ – รัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) มีมติวานนี้(29) ให้ขยายเวลาคว่ำบาตรรัสเซียต่อไปจนถึงเดือนกันยายน โดยยังไม่ประกาศแผนกดดันทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่รัฐบาลใหม่กรีซซึ่งหลายฝ่ายยังไม่มั่นใจในจุดยืนยอมที่จะสนับสนุนบทลงโทษต่อมอสโก
ที่ประชุมรัฐมนตรีอียูยังคงคำสั่งห้ามเดินทางและอายัดทรัพย์สินที่ประกาศไว้เมื่อปีที่แล้ว และในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ก็จะมีการพิจารณาใส่รายชื่อบุคคลลงในบัญชีคว่ำบาตรเพิ่มเติมด้วย
อย่างไรก็ตาม บรรดารัฐมนตรีได้ละข้อความ “ออกมาตรการจำกัดเพิ่มเติม” ที่ปรากฏในร่างหนังสือก่อนการประชุม โดยหัวหน้าฝ่ายกิจการต่างประเทศของอียูชี้ว่า จะมีการตัดสินใจอีกครั้งในการประชุมผู้นำอียูเดือนหน้า
รัฐบาลเยอรมนี ชี้ว่า การออกบทลงโทษเพิ่มเติมจะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในยูเครนว่ามีการรุกคืบของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ซึ่งจะเป็นเหตุอันควรให้ต้องเพิ่มมาตรการกดดันหรือไม่
การประชุมนัดฉุกเฉินระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอียูมีขึ้น หลังจากกบฏในยูเครนตะวันออกฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิงที่บังคับใช้เมื่อ 5 เดือนก่อน และเริ่มปฏิบัติการเชิงรุก โดยเมื่อวันเสาร์(24) กองกำลังกบฏได้ระดมยิงปืนใหญ่ใส่เมืองท่ามารีอูโพลจนทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 30 ราย และนำมาซึ่งการปะทะอย่างรุนแรงกับทหารของยูเครน แต่ดูเหมือนฝ่ายกบฏเองก็ยังไม่มีเจตนาโจมตีเพื่อยึดเมืองให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ
ด้านสหรัฐฯ ซึ่งร่วมกับอียูคว่ำบาตรมอสโกเมื่อปีที่แล้ว ก็ระบุว่ายังไม่มีแผนกดดันใดๆ เพิ่มเติมเช่นกัน
“แน่นอนว่าสหรัฐฯ เห็นด้วยกับท่าทีของอียู มันคือมาตรการเชิงบวก” เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เอ่ยถึงการยืดเวลาคว่ำบาตรรัสเซียโดยสหภาพยุโรป
“นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า การกระทำที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันและหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และจะต้องได้รับการตอบโต้”
ท่าทีของกรีซถูกจับตามองเป็นพิเศษในการประชุมรัฐมนตรีอียูที่กรุงบรัสเซลส์ หลังจากที่นายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ซีปราส จากพรรคไซรีซาซึ่งมีแนวคิดต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดเริ่มเข้าบริหารประเทศเมื่อวันจันทร์(26) โดยรัฐบาลเอเธนส์ติติงอียูที่ไม่ปรึกษาหารือก่อนจะขู่ลงโทษมอสโกเพิ่ม
อย่างไรก็ดี นิโกส กอตเซียส รัฐมนตรีต่างประเทศกรีซ ปฏิเสธชัดเจนต่อแนวคิดที่ว่า เอเธนส์อาจจะคัดค้านมาตรการคว่ำบาตรในทุกรูปแบบ
รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี ระบุว่า กอตเซียส ได้ประกาศกลางที่ประชุมว่า “ผมไม่ใช่หุ่นเชิดของรัสเซีย” และลงนามสนับสนุนคำแถลงที่ว่า มอสโกอยู่เบื้องหลังเหตุนองเลือดในยูเครนตะวันออก และเรียกร้องให้รัสเซียยุติการสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดน
นักการทูตระบุว่า กรีซ, อิตาลี และออสเตรียต่างเรียกร้องให้อียูเลื่อนแผนกดดันรัสเซียเพิ่มเติมออกไปก่อน ขณะที่อังกฤษและกลุ่มประเทศบอลติกต้องการให้อียูประกาศความชัดเจนของมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมโดยเร็วที่สุด