เดอะการ์เดียน - ความรุนแรงในยูเครนตะวันออกยังคงไม่มีทีท่าลดลง ล่าสุดเกิดเหตุกระสุนปืนครกถูกยิงมาตกใส่รถโดยสารในโดเนตสก์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซีย ทำให้มีชาวบ้านเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นตัวเลขยังสับสนระหว่าง 8 รายกับ 13 ราย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับโทรลลีบัส (รถบัสที่ขับเคลื่อนด้วยกระแสไฟฟ้าจากสายไฟด้านบน) คันหนึ่งในโดเนตสก์ ทำให้กระจกหน้าต่างของรถคันดังกล่าวแตกกระจาย มีคราบเลือดอยู่ภายในรถคันนี้ ขณะเดียวกันบรรดาอาคารที่อยู่ใกล้เคียงก็ได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิดด้วย
"ผมเห็นคนนอนตายอยู่บนพื้น แล้วก็มีผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ตอนนั้นมันช่างโกลาหลสุดๆ" อิวาน ชายชราวัย 74 ปี ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในอาคารถัดจากจุดเกิดเหตุ บอกกับนักข่าว โดยที่บริเวณใบหน้าของเขาถูกบาดด้วยเศษกระจกหน้าต่างที่แตกออกเพราะแรงระเบิด
กองกำลังฝ่ายกบฏซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นฝีมือของกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลยูเครน แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ในตอนนี้ ด้านเจ้าหน้าที่ของยูเครนก็บอกว่า ตำแหน่งที่ตั้งของกองกำลังฝ่ายรัฐบาลนั้นอยู่ไกลเกินกว่าที่จะเป็นผู้ก่อเหตุในบริเวณดังกล่าว ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรียูเครน "อาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค" ก็ได้ออกมาระบุว่า นี่เป็นการกระทำที่เลวร้ายต่อเพื่อนมนุษย์ ด้วยน้ำมือผู้ก่อการร้ายรัสเซีย
ตำแหน่งที่เกิดเหตุค่อนข้างชัดเจนว่าอยู่นอกระยะปืนครกของฝ่ายรัฐบาลยูเครน อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องลงมือโจมตีครั้งนี้เช่นกัน ทำให้ทั้งสองฝ่ายยังโทษกันไปมาอยู่ในตอนนี้
ชาวบ้านคนหนึ่งในละแวกนั้น บอกว่า ฝ่ายกบฏกำลังซ่อมรถถังอยู่ในโรงงาน ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนตรงจุดเกิดเหตุ บางทีนั่นอาจจะเป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีครั้งนี้
กองกำลังฝ่ายกบฏในที่เกิดเหตุบอกว่ามีผู้เสียชีวิต 13 ราย แต่ทางโรงเก็บศพระบุว่า ได้รับศพผู้เสียชีวิตมาจำนวน 8 ราย