รอยเตอร์ – ประชากรแดนหมีขาวส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่ามีทหารรัสเซียเข้าไปร่วมสู้รบในยูเครนตะวันออก แต่เกือบครึ่งหนึ่งบอกว่า “จะยินดีไม่น้อย” หากข่าวลือที่ว่านี้เป็นจริง ผลสำรวจซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี(27) ระบุ
โพลซึ่งจัดทำโดยสถาบันวิจัยเลวาดา พบว่า มีชาวรัสเซียผู้ตอบแบบสอบถามเพียงร้อยละ 25 เท่านั้นที่ “ไม่เชื่อ” ในคำปฏิเสธของรัฐบาลมอสโกเรื่องการส่งทหารเข้าไปสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนตะวันออก
ผลสำรวจซึ่งสรุปจากการสอบถามพลเมืองหมีขาว 1,600 คนระหว่างวันที่ 14-17 พฤศจิกายน ยังพบว่า ชาวรัสเซียร้อยละ 53 เชื่อถือคำพูดของรัฐบาล แต่ร้อยละ 45 บอกว่าพวกเขาคงรู้สึก “ดีใจ” หากมีทหารรัสเซียเข้าไปรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับกบฏยูเครนจริงๆ ขณะที่อีกร้อยละ 34 ไม่เห็นด้วย
ผู้บัญชาการกองกำลังนาโตแถลงเมื่อวันพุธ(26)ว่า ความช่วยเหลือจากทหารรัสเซียถือเป็น “หัวใจหลัก” ในการต่อสู้ของกบฏแบ่งแยกดินแดนยูเครนตะวันออกเลยทีเดียว
ก่อนที่คาบสมุทรไครเมียจะถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อเดือนมีนาคม ทำเนียบเครมลินก็เคยปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีทหารรุกล้ำเข้าไปในไครเมียอย่างแน่นอน แต่ภายหลังประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ก็ออกมายอมรับว่า มีการส่งทหารเข้าไปจริงๆ
สมาคมสตรีผู้เป็นมารดาทหารรัสเซียเผยว่า มีทหารที่ได้รับบาดเจ็บหรือถูกสังหารในยูเครนตะวันออกจริง ขณะที่กรุงเคียฟและชาติตะวันตกอ้างว่า การแทรกแซงจากกองทัพหมีขาวคือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้พวกกบฏสามารถตีโต้กองกำลังยูเครนได้เมื่อเดือนสิงหาคม
อิกอร์ สเตรลคอฟ อดีตผู้บัญชาการกองกำลังกบฏยูเครน ให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ซาฟตรา (Zavtra) ซึ่งเป็นสื่อเอียงขวาว่า ทหารรัสเซีย “ที่อยู่ระหว่างลาพัก” เป็นผู้นำในการตอบโต้กองทัพยูเครน
“กลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนปฏิบัติการตามคำสั่งของพวกเขา” สเตรลคอฟ ระบุ พร้อมชี้ว่า ทหารรัสเซีย “ลาพัก” เหล่านั้นยังช่วยให้กบฏสามารถจู่โจมมารีอูโพล ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนได้อีกด้วย
ชาติตะวันตกกล่าวหาว่ารัสเซียส่งทั้งเงินทอง อาวุธ และทหารเข้าไปช่วยพวกกบฏโปรเครมลิน โดยหวังว่าจะทำให้ภาคตะวันออกของยูเครนถูกตัดขาดจากกรุงเคียฟ และหันไปผูกสัมพันธ์ใกล้ชิดกับมอสโกแทน
รัฐบาลหมีขาวยอมรับว่าสนับสนุนอุดมการณ์ของกบฏในยูเครนตะวันออก แต่ไม่เคยเข้าไปมีส่วนในความขัดแย้ง และหากจะมีชาวรัสเซียต่อสู้อยู่ในยูเครนตะวันออกก็เป็นเพียง “ผู้สมัครใจ” เท่านั้น
