เอเอฟพี – ผู้บัญชาการอาวุโสกองทัพองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เผยว่า เขาเป็น “กังวลอย่างยิ่ง” ว่า กองทัพรัสเซียจะเสริมกำลังในแคว้นไครเมียที่ถูกควบรวมและอาจถูกใช้เป็นฐานปล่อยจรวดเพื่อโจมตีภูมิภาคทะเลดำ (Black Sea) ทั้งหมด
ความคิดเห็นของ พล.อ.ฟิลลิป บรีดเลิฟ แห่งสหรัฐฯเมื่อวานนี้ (26) มีขึ้นในเวลาที่ทางเคียฟกำลังกลัวว่า กลุ่มกบฏที่รัสเซียหนุนหลังจะพยายามยึดครองพื้นที่ในภาคตะวันออกของยูเครนเพิ่มเติมเพื่อสร้างเส้นทางทางบกสู่ไครเมีย ดินแดนที่ถูกรัสเซียควบรวมเมื่อเดือนมีนาคม
“พวกเราเป็นกังวลมากกับการทำสงครามในไครเมีย” บรีดเลิฟ กล่าว ภายหลังการประชุมกับผู้นำอาวุโสทางการเมืองและการทหารของยูเครนในกรุงเคียฟ และพูดต่อว่า “สมรรถภาพเหล่านี้ ที่กำลังถูกสร้างขึ้นในไครเมีย อาจมีอิทธิพลกับภูมิภาคทะเลดำทั้งหมด” พร้อมชี้ให้เห็นถึงการไหลทะลักเข้ามาของขีปนาวุธแบบร่อนและจรวดจากพื้นดินสู่อากาศ
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุวานนี้ (26) พวกเขาได้ส่งเครื่องบินรบขับไล่ 14 ลำไปยังไครเมีย ในฐานะส่วนหนึ่งของฝูงบิน 30 ลำที่จะประจำการถาวรที่คาบสมุทรแห่งนี้
บรีดเลิฟ ยังได้ย้ำข้อกล่าวหาว่า กองทหารรัสเซียที่อยู่ภายในภาคตะวันออกของยูเครนกำลัง “ฝึกฝน , ติดอาวุธ และให้คำปรึกษา” แก่กองกำลังกบฏ ขณะที่กองทัพยูเครน ระบุว่า มีการตรวจพบขบวนยุทธภัณฑ์และกองทหารอีกหลายแถวข้ามจากรัสเซียเข้ามายังพรมแดนยูเครนเมื่อวันอังคาร (25)
ด้านมอสโกยืนกรานปฏิเสธคำกล่าวอ้างใดๆ ก็ตามที่ว่า พวกเขามีส่วนร่วมการสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครน แต่ให้การสนับสนุนทางการเมืองที่เปิดเผยกับกลุ่มกบฏ ซึ่งตอนนี้กำลังโอ้อวดเรื่องอาวุธหนักของกองทหารประจำการ
- กองทัพเคี้ยวกุด -
ในขณะเดียวกัน การปะทะนองเลือดระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มแบ่งดินแดนก็ได้สร้างความสุญเสียอย่างต่อเนื่อง โดยกองทัพยูเครนระบุว่า มีทหารสอง 2 นายถูกสังหารเมื่อ 24 ชั่วโมงผ่านมา
ในสัปดาห์นี้ รัฐบาลชุดใหม่ของยูเครน แถลงว่า พวกเขามีความต้องการที่จะเดินหน้าสู่การเป็นสมาชิกนาโต ซึ่งยั่วให้เกิดความโกรธเกรี้ยวรุนแรงขึ้นจากรัสเซีย ซึ่งยืนหยัดต่อต้านการขยายองค์การต่างๆ ของฝ่ายตะวันตกในดินแดนที่พวกเขาถือว่าเป็นหลังบ้านของตน
ก่อนหน้านี้สาธารณะชนชาวยูเคนไม่ได้สนอกสนใจกับการเป็นสมาชิกนาโต แต่ความคิดเห็นของพวกเขากลับเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญ นับตั้งแต่รัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลุกฮือของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ที่สังเวยด้วยชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 4,300 คน นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา โดยผลสำรวจล่าสุดพบว่า ร้อยละ 51 ของชาวยูเครนตอนนี้สนับสนุนการเป็นสมาชิกกลุ่มพันธมิตรนี้ เพิ่มจากเมื่อปีที่แล้ว 20 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม การเข้าร่วมกับนาโตยังคงเป็นโอกาสที่ห่างไกลนัก เพราะว่ายูเครนขาดพรมแดนที่มั่นคงหลายจุดและชาติสมาชิกปัจจุบันก็หลีกเลี่ยงที่จะยั่วยุรัสเซียเพิ่มอีก นอกจากนี้ กองทัพที่ด้อยกำลังอาวุธของยูเครนยังจะจำเป็นต้องยกเครื่องใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ของนาโต แม้ว่า บรีดเลิฟ จะบอกว่า การฝึกฝนกองทัพยูเครนที่ดำเนินอยู่นี้กำลังนำพาให้พวกเขาเข้าใกล้ “กระบวนงาน , เทคนิค และยุทธวิธีของนาโต” มากยิ่งขึ้นก็ตาม
ยูเครนไม่อาจกดดันให้สหรัฐฯส่งอาวุธให้เพื่อใช้สู้รบกับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่วอชิงตันจัดสรรให้เพียงแค่การสนับสนุนทางการทหารที่ไม่ได้มีอันตรายใดๆ อย่างเช่น แว่นตามองกลางคืนและอุปกรณ์วิทยุ