เอเอฟพี – วานนี้ (24 พ.ย.) รัสเซียได้หล่อหลอมอำนาจควบคุมของตนใน “อับฮาเซีย” ดินแดนปกครองตนเองซึ่งประกาศแยกตัวจากจอร์เจีย ด้วยการทำข้อตกลง “ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์” ร่วมกัน ด้านรัฐบาลจอร์เจียชี้ว่า การกระทำของรัสเซียไม่ต่างอะไรไปจากการ “ผนวกอับฮาเซีย” เข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้จรดปากกาลงนาม “เป็นพันธมิตร และทำความตกลงด้านยุทธศาสตร์” ซึ่งจะทำให้รัสเซียสามารถแผ่อิทธิพลครอบงำนโยบายต่างประเทศ กองกำลังติดอาวุธ และเศรษฐกิจของดินแดนปกครองตนเองเล็กๆ แห่งนี้ได้ ตลอดจนสามารถส่งทหารรัสเซียไปประจำการในบริเวณพรมแดนระหว่างอับฮาเซียกับจอร์เจียได้อย่างเป็นทางการ
ทางด้าน รัฐบาลของจอร์เจีย ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของแดนหมีขาว ได้ออกมาประณามว่าการทำข้อตกลงดังกล่าวเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ทามาร์ เบรูชาชวีลี รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์เจียกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การลงนามครั้งนี้ “คือขั้นตอนที่เปิดทางให้สหพันธรัฐรัสเซียเดินหน้าผนวกอับฮาเซียในทางพฤตินัยต่อไป” ทั้งยังเป็นการ “ละเมิดหลักบูรณภาพแห่งดินแดนของจอร์เจีย และเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ”
ในเดือนนี้ ผู้สนับสนุนฝ่ายค้านกว่า 30,000 คนได้จัดการประท้วงในกรุงทบิลิซิ ของจอร์เจียเพื่อต่อต้านการวางแผนทำข้อตกลงฉบับนี้ ซึ่งมีขึ้นท่ามกลางมรสุมการทูต อันมีชนวนเหตุมาจากการข้อกล่าวหาที่ว่า รัสเซียแอบให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏโปรมอสโกที่เคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครน ตลอดจนกรณีที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไคเมีย ซึ่งเป็นอดีตดินแดนของยูเครนเมื่อเดือนมีนาคม
บรรดาพรรคฝ่ายค้านในอับฮาเซียได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลว่า ข้อตกลงฉบับนี้อาจบ่อนทำลายความพยายามในการเรียกร้องเอกราชที่แท้จริงของอับฮาเซีย
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21) ที่ประชุมของสภาอับฮาเซียชี้ว่า บทบัญญัติบางส่วนในข้อตกลงฉบับนี้ “อาจส่งผลอย่างร้ายแรงต่ออำนาจอธิปไตย” ของอับฮาเซีย
ข้อตกลงที่ ปูตินลงนาม ภายหลังการเข้าหารือกับ ราอูล คายิมบา ประธานาธิบดีอับฮาเซีย ที่เมืองโซชิของรัสเซียระบุ่ว่า มอสโกและดินแดนปกครองตนเองแห่งนี้จะรวบรวมกองกำลังให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และจะร่วมปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์ชายแดนอับฮาเซีย-จอร์เจีย
นอกจากนี้ ข้อตกลงดังกล่าวยังระบุว่า มอสโกกับอับฮาเซียจะสร้างระบบบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน และเขตเศรษฐกิจ ตลอดจนเขตศุลกากรร่วมกัน
ข้อตกลงฉบับนี้ ซึ่งระบุว่าเป็นผลิตผลมาจาก การข่มขู่คุกคามระลอกใหม่ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า การโจมตีอับฮาเซียจะเท่ากับเป็นการการแสดงท่าทีก้าวร้าวต่อรัสเซีย และมอสโกจะจัดส่งความช่วยเหลือทางทหารให้แก่อับฮาเซีย
นอกจากนี้ ปูตินยังกล่าวด้วยว่าจะ มอบเงินห้าพันล้านรูเบิล (ราว 3.6 พันล้านบาท) ให้แก่ดินแดนปกครองตนเองแห่งนี้ในปี 2015
ทางด้านสหภาพยุโรป (อียู) และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ระบุว่า ข้อตกลงฉบับนี้ละเมิดอำนาจอธิปไตย และหลักบูรณภาพแห่งดินแดนของจอร์เจีย ทั้งยังเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ
เฟเดริกา โมเกห์รีนี ประธานนโยบายการต่างประเทศอียูระบุในคำแถลงว่า การทำข้อตกลงฉบับนี้ “เป็นภัยต่อความพยายามสร้างสเถียรภาพให้แก่สถานการณ์ความมั่นคงในภูมิภาคนี้”
ทั้งนี้ อับฮาเซียประกาศแยกตัวจากจอร์เจียภายหลังเกิดสงครามกลางเมืองระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียกับอับฮาเซียในช่วงทศวรรษที่ 1990 ส่งผลให้ประชาชนราว 250,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจอร์เจียต้องละทิ้งบ้านเรือนหนีภัยสู้รบ
รัสเซียได้ส่งทหารไปประจำการในอับฮาเซีย ดินแดนปกครองตนเองที่พึ่งพาความช่วยเหลือจากรัสเซียมากมาย
รัสเซียได้ประกาศให้การรับรองเเอกราชของอับฮาเซีย พร้อมๆ กับเซาธ์ออสซีเชีย ที่ประกาศแยกตัวหลังทำสงครามห้าวันกับจอร์เจียเมื่อปี 2008
อย่างไรก็ตามมมีประเทศเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้นที่ให้การยอมรับว่าดินแดนทั้งสองมีสถานะเป็นประเทศ