เอพี - ปรากฏการณ์รูเบิลอ่อนค่ากว่า 50% ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และนโยบายก้าวร้าวต่อยูเครนที่ทำให้มอสโกกลายเป็น “ชาติอันธพาล” ในสายตาชาวโลก อาจทำให้เวลาของวลาดิเมียร์ ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีเหลือน้อยลงทุกขณะในมุมมองชาติตะวันตก แต่สำหรับพลเมืองรัสเซียส่วนใหญ่ ปูติน ไม่ใช่ “ต้นเหตุ” ของปัญหา หากแต่เป็น “ทางออก” สำหรับวิกฤตการณ์ทั้งหมดที่รัสเซียกำลังเผชิญอยู่
ขณะคนทั่วโลกเฝ้ารอฟังการแถลงข่าวของผู้นำรัสเซียในวันนี้ (18) อย่างใจจดใจจ่อ ศูนย์วิจัย Associated Press-NORC ว่าด้วยกิจการสาธารณะ ก็ได้เผยแพร่ผลสำรวจล่าสุดซึ่งพบว่า ชาวรัสเซียกว่าร้อยละ 80 ยังพึงพอใจรัฐบาลที่มีปูตินเป็นผู้นำ
อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นที่คนรัสเซียมีต่อเศรษฐกิจของประเทศเริ่มลดน้อยลง โดยเฉพาะชาวมอสโกซึ่งส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการบริโภคสินค้านำเข้า และเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นว่าเล่น
วิถีชีวิตที่หรูหราฟุ้งเฟ้อของคนเมืองหลวงต้องเปลี่ยนไป หลังค่าเงินรูเบิลลดลงกว่าครึ่ง และรัสเซียยังถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรจากกรณีปัญหายูเครน
การสำรวจความคิดเห็นนี้จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน - 7 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เงินรูเบิลทยอยอ่อนค่าลง ทว่าการดิ่งเหวของค่าเงินครั้งใหญ่ในสัปดาห์นี้คาดว่าจะกระทบต่อดัชนีราคาผู้บริโภคและคุณภาพชีวิตพลเมืองรัสเซียยิ่งกว่าเดิม
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ภารกิจสำคัญที่ ปูติน จะต้องทำให้สำเร็จคือโน้มน้าวให้ชาวรัสเซียรู้จัก “รัดเข็มขัด” และไม่ใช่แค่ช่วงไม่กี่เดือนนับจากนี้ แต่อาจจะต้องทำต่อเนื่องไปอีกหลายปี
“คนรัสเซียรับรู้ได้ว่าพวกเขากำลังถูกคว่ำบาตร พวกเขาเป็นเสมือนป้อมปราการที่ถูกยึด” มาเรีย ลิปแมน นักวิเคราะห์อิสระ ให้ความเห็น
“แนวคิดเช่นนี้กำลังถูกโฆษณาอย่างต่อเนื่องผ่านสถานีโทรทัศน์ในรัสเซีย ใครเล่าที่จะพึ่งพาได้อีกนอกจากปูติน? เขาคือคนเดียวที่จะกอบกู้วิกฤตของชาติได้ และดิฉันคิดว่า ปูติน เองก็เชื่ออย่างนั้น”
ผลสำรวจล่าสุดพบว่า ชาวรัสเซียร้อยละ 81 เห็นด้วยอย่างยิ่ง หรือค่อนข้างเห็นด้วยกับวิธีบริหารประเทศของปูติน เพิ่มขึ้นกว่า 20% จากผลสำรวจโดย AP-GfK เมื่อปี 2012
แม้จะมีมาตรการปิดกั้นเสรีภาพจนทำให้รัสเซียเข้าใกล้ความเป็นรัฐเผด็จการ แต่กระแสนิยมที่สูงลิ่วของ ปูติน ก็ไม่ได้เกิดจากการปั้นแต่ง
ผลสำรวจของเลวาดา (Levada) โพลอิสระซึ่งได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในรัสเซีย พบว่า ปูติน ยังมีคะแนนนิยมถึงร้อยละ 74 ซึ่งในทางสถิติแล้วก็ต่ำกว่าตัวเลขร้อยละ 81 ไม่มากนัก
อย่างไรก็ดี สิ่งที่นักวิเคราะห์ตั้งคำถามก็คือ คะแนนนิยมที่สูงลิ่วนี้จะมีความหมายแค่ไหน ในเมื่อรัฐบาลเครมลินยังควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างเข้มงวด
“รัฐบาลรัสเซียมีระบบโฆษณาชวนเชื่อแบบผูกขาดที่ได้ผลมาก และเมื่อมีการผูกขาดข้อมูลเช่นนี้ คุณจะยังเชื่อถือเรื่องคะแนนนิยมได้อยู่หรือ... สิ่งที่คุณควรสนใจไม่ใช่คะแนนนิยมร้อยละ 80 แต่ควรจะมองว่ายังมีคนอีกตั้งร้อยละ 15 ที่ไม่พอใจ ทั้งๆ พวกเขาก็ถูกบังคับให้รับข้อมูลจากรัฐบาลฝ่ายเดียว” จอร์จี ซาตารอฟ อดีตที่ปรึกษารัฐบาลรัสเซียซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าสำนักวิจัยด้านการทุจริตคอรัปชัน ให้ความเห็น
การช่วงชิงคาบสมุทรไครเมียมาจากยูเครนในเดือนมีนาคมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้คะแนนนิยมของปูตินพุ่งพรวด
“ชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 คือสิ่งที่คนรัสเซียภูมิใจที่สุด แต่นั่นมันก็ 70 ปีมาแล้ว... การที่ ปูติน ยึดดินแดนไครเมียกลับมาทำให้ชาวรัสเซียได้รู้สึกถึงการเป็นผู้ชนะอีกครั้ง” ลิปแมน อธิบาย
กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออกก็ถูกสื่อโทรทัศน์รัสเซียวาดภาพให้เป็น “วีรบุรุษ” เช่นกัน โดยผลสำรวจพบว่า มีชาวรัสเซียถึงร้อยละ 69 ที่เชื่อว่าดินแดนบางส่วนของยูเครนเป็นกรรมสิทธิ์ของรัสเซียโดยชอบธรรม