ฟิทช์ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ WHA จากแผนเข้าซื้อ Hemaraj ระบุการประกาศเจตนาในการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว ยังมีความไม่แน่นอน โดยมีเงื่อนไขต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อน เช่น การอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ทั้งในการเข้าซื้อกิจการ และในการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ นอกจากนี้ สัดส่วนของจำนวนหุ้นของ Hemaraj ที่ WHA จะได้ถือครองในที่สุด รวมทั้งแผนเกี่ยวกับแหล่งเงินทุนที่จะใช้ในการชำระเงิน ยังคงมีความไม่แน่นอนเช่นกัน
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) ของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ที่ ‘A-(tha)’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-term Rating) ของ WHA ที่ ‘F2(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ของหุ้นกู้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิของบริษัทฯ ที่ ‘A-(tha)’
การประกาศเครดิตพินิจดังกล่าวเป็นผลจากการที่ WHA ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงแผนการประกาศเจตนาจะเข้าถือหลักทรัพย์ของบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (HEMRAJ) เพื่อครอบงำกิจการ โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Conditional Voluntary Tender Offer)
การพิจารณาอันดับเครดิตของบริษัทฯ ออกจากเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ จะพิจารณาในด้านของสถานะทางธุรกิจและการเงินหลังจากการรวมธุรกิจหากมีการเข้าซื้อกิจการเกิดขึ้นตามแผน อันดับเครดิตอาจจะถูกปรับลดหรือคงไว้ที่ระดับเดิม ขึ้นอยู่กับสถานะทางธุรกิจและสถานะทางเครดิตของบริษัทฯ หลังจากการเข้าซื้อกิจการ
การประกาศเจตนาในการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน โดยมีเงื่อนไขต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อน เช่น การอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการเข้าซื้อกิจการและในการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ นอกจากนี้ สัดส่วนของจำนวนหุ้นของ Hemaraj ที่ WHA จะได้ถือครองในที่สุด รวมทั้งแผนเกี่ยวกับแหล่งเงินทุนที่จะใช้ในการชำระเงิน ยังคงมีความไม่แน่นอนเช่นกัน
ปัจจัยที่มีผลต่ออันอับเครดิต
- มูลค่าที่สูงของรายการในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่จะเพิ่มได้ในอันดับเครดิตปัจจุบันมีจำกัด: WHA มีแผนที่จะเข้าซื้อหุ้นของ Hemaraj ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนอย่างน้อย 2.19 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมของ WHA ที่ 1.66 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 แหล่งเงินทุนที่จะใช้ในการเข้าซื้อกิจการน่าจะมาจากเงินกู้มากกว่าร้อยละ 60 ของเงินลงทุน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้นของ Hemaraj ทั้งหมดที่ WHA จะได้รับเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาเสนอซื้อ หากมีการเข้าซื้อกิจการเกิดขึ้นตามแผน อัตราส่วนหนี้สินของ WHA อาจจะเพิ่มสูงขึ้น 1 เท่าถึง 2 เท่า ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายการจ่ายเงินปันผลรวมถึงผลประกอบการของ Hemaraj ด้วย โดยฟิทช์ได้พิจารณารวมแผนการลดหนี้ของบริษัทฯ ใน 2-3 ปีข้างหน้าไว้แล้ว
- ก่อนการประกาศแผนดังกล่าว ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินของ WHA ที่วัดจากหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted leverage) จะอยู่ในระดับ 5.5 เท่าถึง 6.0 เท่า ณ สิ้นปี 2557 หลังจากการขายทรัพย์สินให้แก่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ในเดือนธันวาคม 2557 (ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 อัตราส่วนหนี้สินดังกล่าวอยู่ที่ 7.4 เท่า) ซึ่งอัตราส่วนหนี้สินในระดับดังกล่าวสามารถรองรับการเพิ่มสูงขึ้นของอัตราส่วนหนี้สินได้จำกัด ในการรักษาอัตราส่วนหนี้สินให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันของบริษัทฯ
- ประโยชน์จากขนาดของธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นและมีความหลากหลายมากขึ้น: การเข้าซื้อกิจการจะทำให้ WHA มีขนาดของการดำเนินงานที่ใหญ่ขึ้น รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความหลากหลายมากขึ้น รวมถึงเป็นการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจขั้นต้นของธุรกิจลอจิสติกส์ (Upward Integration) อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อกิจการจะเป็นการขยายธุรกิจของ WHA ไปสู่ธุรกิจการพัฒนาและขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งฟิทช์มองว่าเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงกว่าธุรกิจพัฒนาคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าให้เช่าที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละราย (Built-to-Suit) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักในปัจจุบันของบริษัทฯ นอกจากนี้ ธุรกิจการให้บริการสาธารณูปโภคของ HEMRAJ น่าช่วยเพิ่มสัดส่วนของรายได้ค่าเช่าและค่าบริการของบริษัทฯ และช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของรายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยลบ:
- การเข้าซื้อกิจการซึ่งทำให้อัตราส่วนหนี้สินที่วัดจากหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted leverage) อยู่ในระดับสูงกว่า 4.5 เท่าอย่างต่อเนื่อง และ
- สถานะและความเสี่ยงของธุรกิจหลังจากการรวมธุรกิจไม่ได้ดีขึ้นจากเดิม
- อันดับเครดิตอาจจะถูกปรับลดลงมากกว่าหนึ่งอันดับได้ หากอัตราส่วนหนี้สินมีการเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตไม่น่าจะเกิดขึ้น จากการเข้าซื้อกิจการที่อาจเกิดขึ้น
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบแก่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) ของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ที่ ‘A-(tha)’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-term Rating) ของ WHA ที่ ‘F2(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ของหุ้นกู้ไม่มีประกันและไม่ด้อยสิทธิของบริษัทฯ ที่ ‘A-(tha)’
การประกาศเครดิตพินิจดังกล่าวเป็นผลจากการที่ WHA ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงแผนการประกาศเจตนาจะเข้าถือหลักทรัพย์ของบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (HEMRAJ) เพื่อครอบงำกิจการ โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Conditional Voluntary Tender Offer)
การพิจารณาอันดับเครดิตของบริษัทฯ ออกจากเครดิตพินิจแนวโน้มเป็นลบ จะพิจารณาในด้านของสถานะทางธุรกิจและการเงินหลังจากการรวมธุรกิจหากมีการเข้าซื้อกิจการเกิดขึ้นตามแผน อันดับเครดิตอาจจะถูกปรับลดหรือคงไว้ที่ระดับเดิม ขึ้นอยู่กับสถานะทางธุรกิจและสถานะทางเครดิตของบริษัทฯ หลังจากการเข้าซื้อกิจการ
การประกาศเจตนาในการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน โดยมีเงื่อนไขต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อน เช่น การอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการเข้าซื้อกิจการและในการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ นอกจากนี้ สัดส่วนของจำนวนหุ้นของ Hemaraj ที่ WHA จะได้ถือครองในที่สุด รวมทั้งแผนเกี่ยวกับแหล่งเงินทุนที่จะใช้ในการชำระเงิน ยังคงมีความไม่แน่นอนเช่นกัน
ปัจจัยที่มีผลต่ออันอับเครดิต
- มูลค่าที่สูงของรายการในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่จะเพิ่มได้ในอันดับเครดิตปัจจุบันมีจำกัด: WHA มีแผนที่จะเข้าซื้อหุ้นของ Hemaraj ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนอย่างน้อย 2.19 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมของ WHA ที่ 1.66 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 แหล่งเงินทุนที่จะใช้ในการเข้าซื้อกิจการน่าจะมาจากเงินกู้มากกว่าร้อยละ 60 ของเงินลงทุน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนหุ้นของ Hemaraj ทั้งหมดที่ WHA จะได้รับเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาเสนอซื้อ หากมีการเข้าซื้อกิจการเกิดขึ้นตามแผน อัตราส่วนหนี้สินของ WHA อาจจะเพิ่มสูงขึ้น 1 เท่าถึง 2 เท่า ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายการจ่ายเงินปันผลรวมถึงผลประกอบการของ Hemaraj ด้วย โดยฟิทช์ได้พิจารณารวมแผนการลดหนี้ของบริษัทฯ ใน 2-3 ปีข้างหน้าไว้แล้ว
- ก่อนการประกาศแผนดังกล่าว ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินของ WHA ที่วัดจากหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted leverage) จะอยู่ในระดับ 5.5 เท่าถึง 6.0 เท่า ณ สิ้นปี 2557 หลังจากการขายทรัพย์สินให้แก่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ในเดือนธันวาคม 2557 (ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557 อัตราส่วนหนี้สินดังกล่าวอยู่ที่ 7.4 เท่า) ซึ่งอัตราส่วนหนี้สินในระดับดังกล่าวสามารถรองรับการเพิ่มสูงขึ้นของอัตราส่วนหนี้สินได้จำกัด ในการรักษาอัตราส่วนหนี้สินให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันของบริษัทฯ
- ประโยชน์จากขนาดของธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นและมีความหลากหลายมากขึ้น: การเข้าซื้อกิจการจะทำให้ WHA มีขนาดของการดำเนินงานที่ใหญ่ขึ้น รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความหลากหลายมากขึ้น รวมถึงเป็นการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจขั้นต้นของธุรกิจลอจิสติกส์ (Upward Integration) อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อกิจการจะเป็นการขยายธุรกิจของ WHA ไปสู่ธุรกิจการพัฒนาและขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งฟิทช์มองว่าเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงกว่าธุรกิจพัฒนาคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าให้เช่าที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละราย (Built-to-Suit) ซึ่งเป็นธุรกิจหลักในปัจจุบันของบริษัทฯ นอกจากนี้ ธุรกิจการให้บริการสาธารณูปโภคของ HEMRAJ น่าช่วยเพิ่มสัดส่วนของรายได้ค่าเช่าและค่าบริการของบริษัทฯ และช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของรายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยลบ:
- การเข้าซื้อกิจการซึ่งทำให้อัตราส่วนหนี้สินที่วัดจากหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted leverage) อยู่ในระดับสูงกว่า 4.5 เท่าอย่างต่อเนื่อง และ
- สถานะและความเสี่ยงของธุรกิจหลังจากการรวมธุรกิจไม่ได้ดีขึ้นจากเดิม
- อันดับเครดิตอาจจะถูกปรับลดลงมากกว่าหนึ่งอันดับได้ หากอัตราส่วนหนี้สินมีการเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตไม่น่าจะเกิดขึ้น จากการเข้าซื้อกิจการที่อาจเกิดขึ้น