xs
xsm
sm
md
lg

เอ็น.ซี.ฯ บุกตลาดโซนตะวันตก กทม.เปิดตัวสวยเดือนแรกขาย 100 ยูนิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เผยที่ดินโซน กทม.ตะวันตกปรับตัวแรง ชี้เพชรเกษม ราคาพุ่งหลายเท่าตัว หลังได้รับปัจจัยบวกจาการลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ศาลายา ราคาพุ่งเท่าตัวหลังเซ็นทรั่ลเปิดให้บริการห้างสรรพสินค้า ระบุ 2 ปี ที่ดินย่านศาลายาราคาปรับขึ้นจาก 4 ล้าน เป็น 8 ล้านบาทต่อไร่ เอ็น.ซี.ฯ สบช่องดึงที่ดินสะสมผุด “บ้านฟ้า กรีนเนอร์รี่ ปิ่นเกล้า สาย 5” โครงการบ้านเดี่ยวผสมบ้านแฝด-ทาวน์เฮาส์ 466 ยูนิต มูลค่า 1,600 ล้านบาท แจงเปิดตัวเดือนแรกยอดขายกระฉูดกว่า 100 ยูนิต ล่าสุด ยอดขาย 220 ยูนิต หรือกว่า 740 ล้านบาทแล้ว เผยแผนปี 58 ผุดโครงการใหม่ไม่ต่ำกว่า 3 โครงการ

นายรังสรรค์ นันทกาวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH กล่าวว่า การปรับตัวของราคาที่ดินโซนตะวันตกของ กทม.ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เกิดขึ้นอย่างเร็วภายหลังจากภาครัฐมีการเร่งการลงทุนขยายระบบสาธารณูปโภค โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และการตัดถนนในเส้นทางใหม่ ทำให้ราคาดินในย่านถนนเพชรเกษมปรับตัวอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ราคาที่ดินในย่านถนนพุทธมณฑล ก็มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพาะทำเลย่านศาลายา ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดบริการของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลศาลายา ซึ่งส่งผลให้ราคาในย่านศาลายาในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นกว่า 1 เท่าตัว ทำให้ต้นทุนที่ดินของผู้ประกอบการปรับตัวเพิ่ม และส่งผลให้ราคาบ้าน และทาวน์โฮมในโซนปิ่นเกล้า และราชพฤกษ์ รวมถึงพุทธมณฑล ปรับราคาสูงตามไปด้วย

“กลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อบ้านเดี่ยวระดับ 5 ล้านบาท และทาวน์โฮม 2 ล้านบาทต้นๆ ที่ต้องการบ้านเดี่ยวติดถนนบรมราชชนนีต้องขยับออกมาซื้อบ้านในพื้นไกลออกไป เนื่องจากราคาบ้านในพื้นที่เลียบถนนบรมราชชนนี มีระดับราคาสูงกว่างบที่ลูกค้ามี”

จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้บริษัทตัดสินใจลงทุนพัฒนาโครงการบ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ปิ่นเกล้า-สาย 5 หลังจากที่บริษัทได้ซื้อที่ดิน จำนวน 65 ไร่ ติดถนนบรมชชนนี ใกล้กับถนนพุทธมณฑลสาย 5 เป็นแลนด์แบงก์สะสมที่ซื้อเข้ามาในช่วงปี 2555 ในราคา 4 ล้านบาทต่อไร่ แต่ในปัจจุบันราคาที่ดินปรับตัวมาอยู่ที่ 8 ล้านบาทต่อไร่ ทั้งนี้ ด้วยราคาที่ดินดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการที่ซื้อที่ดินใหม่ไม่สามารถพัฒนาบ้านเดี่ยวในระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ราคาไม่เกิน 2.5ล้านบาทได้ยาก แต่เนื่องจากบริษัทได้ซื้อที่ดินเข้ามาในช่วง 2 ปีที่แล้ว ทำให้มีต้นทุนที่ดินต่ำและสามารถพัฒนาบ้านเดี่ยวในราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ราคา 2 ล้านบาทต้นๆ ได้

นายรังสรรค์ กล่าวว่า โครงการ “บ้านฟ้า กรีนเนอร์รี่ ปิ่นเกล้า สาย 5” บริเวณพุทธมณฑลสาย 5 ถือเป็นการก้าวเข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของ เอ็น.ซี.ฯ ในโซนตะวันตกของ กทม. เป็นโครงการแรก ซึ่งภายหลังจากเปิดขายโครงการดังกล่าวปรากฏว่า ได้รับการตอบรับอย่างดี สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ “บ้านฟ้า” เป็นอย่างดี โดยในเดือนแรกที่เปิดขายโครงการสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 100 ยูนิต ล่าสุด โครงการดังกล่าวมียอดขายแล้ว 220 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ากว่า 760 ล้านบาท

สำหรับโครงการ “บ้านฟ้า กรีนเนอร์รี่ ปิ่นเกล้า สาย 5” มีพื้นที่ 65 ไร่ มีจำนวน 466 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 140 ยูนิต บ้านแฝด 118 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.9-5.1 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 208 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.2 ล้านบาท มูลค่ารวมโครงการกว่า 1,600 ล้านบาท

“โครงการ “บ้านฟ้า กรีนเนอร์รี่ ปิ่นเกล้า สาย 5” ถือว่าเป็นโครงการสุดท้ายที่ เอ็น.ซี.ฯ เปิดขายในปีนี้ ทำให้ ณ ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการที่อยู่ระห่างการขายรวม 12 โครงการ และคาดว่าในปี 2558 จะเปิดการขายได้ 3 โครงการ ขระเดียวกัน ในปีหน้าบริษัทก็มีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ไม่ต่ำกว่า 3 โครงการ เพื่อชดเชยโครงการที่จะปิดการขายในปีหน้าด้วย สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายแล้วกกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 2,800 ล้านบาท”

“ในปี 2558 บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มอย่างน้อย 3 โครงการ ในบริเวณ กทม.-ปริมณฑล ระดับราคาประมาณ 4-5 ล้านบาทขึ้นไป นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาในต่างต่างจังหวัด ซึ่งคาดในต้นปีหน้าจะเปิดโครงการคอนโดมิเนียม “ดิอามอง” เชียงใหม่ ในเฟสต่อเนื่องเพิ่ม”

นายรังสรรค์ กล่าวถึงแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 ว่า จะมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีกว่าปี 2557 เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองเข้าสู่สภาวะปกติ ประกอบกับการเร่งอนุมัติโครงการสาธารณูปโภค โดยเฉพาะโครงการส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ทั้งนี้ มั่นใจว่าจะในปีหน้าผู้ประกอบการจะพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น ภายหลังจากที่ชะลอการพัฒนาในช่วงปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ และขยายระบบขนส่งโดยเฉพาะรถไฟฟ้า คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว ในส่วนกำลังซื้อเชื่อว่าจะกลับมาฟื้นตัวด้วยเช่นกัน สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ในข่วงเวลาที่เหลือของปีนี้เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว และคาดว่าในปี 2558 ตลาดจะกลับมาคึกคักอีกครั้งอย่างแน่นอน สำหรับแนวโน้มราคาบ้านในปีหน้าคาดว่าจะมีการปรับตัวขึ้น 10% จากราคาต้นทุนที่จะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น

 
กำลังโหลดความคิดเห็น