ตระกูล “ว่องไววิทย์” ผู้นำในอุตฯ เหล็กและเครื่องกลกว่า 50 ปี เข้าเกียร์เดินหน้าขยายลงทุนธุรกิจอสังหาฯ เนรมิตที่ดินกงสีสร้างมูลค่าเพิ่ม นำร่องแปลงงามติดสถานีรถไฟฟ้าสำโรง ผุดคอนโดฯ 4 ตึก มูลค่า 5,500 ล้านบาท เชื่อมสกายวอล์กกับระบบขนส่ง คาดก่อสร้างกลางปี 58 หลังอีไอเอผ่าน แย้มรอจังหวัดโปรเจกต์สำเร็จ ผุดโครงการใหญ่บนเนื้อที่ 16 ไร่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสมุทรปราการ คาดมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ระบุลูกค้าทั้งใน และต่างประเทศเชื่อมั่นในแบรนด์ของตระกูล “ว่องไววิทย์” ส่วนโครงการบ้านหรู “วิลล่า ศรีนครินทร์” เปิดขายเฟส 3 คาดปี 58 ปิดการขายทั้่งโครงการมูลค่า 2,000 ล้านบาท
นายเฉลิมชัย ว่องไววิทย์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เมโทรโพลิส พรอพเพอร์ตี้ส์ จำกัด บริษัทในเครือ ว่องไววิทย์ อุตสาหกรรมจักรกล จำกัด ผู้ดำเนินอุตสาหกรรมเหล็กและเครื่องกลมากกว่า 50 ปี กล่าวว่า ภายหลังจากประสบความสำเร็จจากการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม “อีสต์วู๊ด พาร์ค” และโครงการบ้านหรู “วิลล่า ศรีนครินทร์” แล้ว ล่าสุด หลังจากที่รัฐบาลประกาศขยายการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว ประกอบกับบริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสในการนำที่ดินจำนวนหลายแปลงในย่านสมุทรปราการมาพัฒนา สร้างโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อตอบสนองต่อกลุ่มลูกค้าที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยในราคาที่ไม่แพง และในอนาคตจะกลายเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมของการอยู่อาศัย ทางตระกูลจึงได้ตัดสินใจนำที่ดินของครอบครัว จำนวน 2 แปลง ซึ่งติดสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมาพัฒนาโครงการ
โดยแปลงแรกเป็นที่ดินโรงงานอุตสาหกรรมหนักของครอบครัวที่ดำเนินการมากว่า 50 ปี ติดสถานีสำโรง บนพื้นที่ 8.5 ไร่ มีแผนจะพัฒนาเป็นคอนโดฯ แบรนด์ “เดอะ เมโทรโพลิส” มูลค่าขายโครงการ 5,500 ล้านบาท ประเภทแนวสูง จำนวน 4 อาคาร แยกเป็นอาคารสูง 30 ชั้น 1 อาคาร และสูง 35 ชั้น จำนวน 3 อาคาร ขนาด 28-55 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาเริ่มต้นที่ 1.9 ล้านบาทขึ้นไป หรือเริ่มต้นที่ 70,000 บาท/ตร.ม. จำนวน 1,600 ยูนิต แบ่งการพัฒนาเป็น 4 เฟสๆ ละ 400 ยูนิต คาดว่าจะเปิดการขายในต้นปี 2558 โดยจะแบ่งขายออกเป็น 800 ยูนิตแรก และอีก 800 ยูนิต ในปี 59 ทั้งนี้ ทางโครงการอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และคาดว่าการก่อสร้างจะเริ่มกลางปี 58
“เมื่อมีการพัฒนาโครงการ เราก็จะย้ายโรงงานที่เป็นอุตสาหกรรมหนักไปอยู่ย่านบางนา-ตราด กม.20 กว่าขึ้นไป เพราะทางครอบครัวยังมีที่ดินสะสมอยู่อีกหลายแปลง ซึ่งเป็นที่มรดกที่คุณแม่ซื้อมานานแล้ว อีกทั้งยังสามารถพัฒนาโครงการแนวราบอย่างต่อเนื่องได้ในอนาคต”
ส่วนที่ดินอีก 1 แปลง ตั้งอยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าสมุทรปราการ บนพื้นที่ 16 ไร่ มีแผนจะพัฒนาเป็นคอนโดฯ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ คงต้องรอดูผลจากการเปิดขายโครงการ “เดอะ เมโทรโพลิส” ก่อน แต่คาดว่ามูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
คาดว่าในอนาคตเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจ และและอสังหาฯ ไทยกลับมาบูมอีกครั้งหนึ่ง และการที่บริษัทฯ มีที่ดิน 2 แปลงติดสถานีรถไฟฟ้า ก็ถือเป็นโอกาสดีในการพัฒนาเป็นคอนโดฯ เพราะปัจจุบันคนวัยทำงานเริ่มชินต่อการอยู่อาศัยคอนโดฯ และมีความจำเป็นที่จะต้องยอมอยู่อาศัยในพื้นที่ๆ เล็กลง เพื่อสามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก
“ที่ผ่านมา เราพัฒนาโครงการเองโดยไม่ได้ร่วมทุนกับใคร และมองว่าที่ดินนับวันจะมีมูลค่ามากขึ้น ยิ่งรัฐบาลมีนโบายขยายส่วนต่อรถไฟฟ้า จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะนำที่ดินที่มีศักยภาพมาพัฒนา ซึ่งผมสอบที่จะสร้างผมเป็นวิศวกร เราอยากสร้างในสิ่งที่เราเห็น ส่วนใครจะมองว่า การขายที่ดินเปล่าจะง่ายกว่านั้น ผมไม่มีปัญหาเรื่องเงิน และหากทำจริง ไปฝากแบงก์ก็ได้นิดเดียว อีกอย่างการขายที่ดิน มันไม่เท่ ซึ่งนโยบายเราจะเน้นพัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่รีบเร่งเหมือนผู้ประกอบการรายใหญ่ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะไม่มีภาระเรื่องที่ดิน”
ส่วนความคืบหน้าโครงการ “วิลล่า นครินทร์” ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเปิดขายในเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นเฟสสุดท้าย จากพื้นที่ทั้งหมด 97 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ขณะนี้เหลือขายเพียง 50 ยูนิต และมีการปรับราคาขายขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันอยู่ที่ 10-100 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในปี 2558 และจะทำให้บริษัทฯ มีรายได้รวมในปีนี้ 100 ล้านบาท ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียนที่เพิ่มเป็น 300 ล้านบาท และมีแผนจะเพิ่มอีก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค และรองรับการพัฒนาโครงการต่างๆ ในอนาคต