ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ หนีคู่แข่งหันรับสร้างบ้านหรูเกินกว่า 50 ล้านบาท ล่าสุดเปิดตัวแบบบ้านใหม่ Pride of Emperor ในแนวคิด “บ้าน ๑๐๐ ปี : สถาปัตยกรรมเพื่อสร้างตำนาน” ราคาค่าก่อสร้างบ้าน 58.5 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยกว่า 1,345 ตร.ม. ผนึก 5 พันธมิตร ใช้วัสดุคุณภาพเยี่ยมเอาใจเศรษฐี เผยตุนงานในมือแล้ว 185 ล้านบาท ตั้งเป้าสิ้นปีรับสร้างบ้าน 380 ล้านบาท เผยสร้างบ้านเศรษฐีลาว 1 หลังมูลค่า 200 ล้านบาท เจรจาเพิ่มอีก 1 หลัง ฟุ้งทุบสถิติสร้างบ้านแพงสุด 360 ล้านบาท เตรียมส่งมอบปีนี้
นายสุรัตน์ชัย กึงฮะกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดิ เอ็มเพอเร่อร์ เฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านหรูในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมือง ลูกค้าชะลอการสร้างบ้านเนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ แต่หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ลูกค้าจึงตัดสินใจเซ็นสัญญาสร้างบ้าน ซึ่งนับจากต้นปีจนถึงปัจจุบันเซ็นสัญญาสร้างบ้านไปแล้ว 3-4 หลัง มูลค่า 185 ล้านบาท โดยทั้งปีตั้งเป้าไว้ที่ 380 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างบ้าน 8-9 หลัง มูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งมอบและรับรู้รายได้ในปี 2557 ประมาณ 330 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ บริษัทเปิดรับสร้างบ้านราคาตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป โดยบ้านราคาแพงสุดประมาณ 260 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างบ้านราคา 360 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการทุบสถิติของบริษัท อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มบ้านราคา 20 ล้านบาท กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร และพบว่ากลุ่มลูกค้าของบริษัทนิยมสร้างบ้านราคาตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนงานตกแต่งมักมีมูลค่าสูงกว่าตัวบ้าน ทำให้ราคาบ้านเฉลี่ยของบริษัทในปัจจุบันอยู่ที่หลังละ 90 ล้านบาท โดยปีที่ผ่านมาได้ส่งมอบบ้านราคาสูงสุด 260 ล้านบาท ปีนี้เตรียมส่งมอบบ้านราคา 360 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทุบสถิติสูงสุดของบริษัท
นอกจากนี้ ยังพบว่าบริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่หันมารับสร้างบ้านหรูมากขึ้น ทำให้บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ขึ้นไปรับสร้างบ้านหรูราคาเกินกว่า 50 ล้านบาท ที่มีคู่แข่งในตลาดไม่ถึง 3 ราย ล่าสุดเปิดตัวบ้านรุ่น Pride of Emperor “บ้าน ๑๐๐ ปี : สถาปัตยกรรมเพื่อสร้างตำนาน” ซึ่งออกแบบมาเป็นแบบแรก โดยเป็นบ้านสไตล์คลาสสิค บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 1,345 ตร.ม., 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, ห้องโฮม เธียร์เตอร์, ห้องฟิตเนส และอื่นๆ และมีการใส่ระบบ infrastructure อย่างดีเยี่ยม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับช่างและเจ้าของบ้านในการดูแลบ้านในระยะยาว ราคาค่าก่อสร้างจะเริ่มต้นอยู่ที่ 58.5 ล้านบาท และสูงสุดคาดว่าจะอยู่ที่ 85 ล้านบาท
บ้านรุ่น Pride of Emperor เป็นการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับแนวหน้าของไทย เพื่อเลือกใช้วัสดุที่ดีมีคุณภาพดีที่สุดมาใช้ ได้แก่ บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด, บริษัท โจตันไทย จำกัด, บริษัท บาส-รีลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายบัวประดับเพดาน-ผนัง บัวสำเร็จรูป, บริษัท นวพลาสติก อุตสาหกรรม จำกัด ตัวแทนประกอบและจำหน่าย หน้าต่างประตู WINDSOR และบริษัท ไอบิวท์ ออโตเมชั่น จำกัด บริษัทติดตั้งระบบ Home Automation
ล่าสุด บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาปรับแบบกับลูกค้าในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งราคาเฉพาะรับสร้างบ้านล่าสุดอยู่ที่ 85 ล้านบาท และหากรวมตกแต่งภายในแล้วรวมกว่า 200 ล้านบาท รวมถึงยังมีลูกค้าอีกรายในจังหวัดกำแพงเพชร ที่ต้องการสร้างบ้านขนาดใหญ่กว่าลูกค้าในจังหวัดนครสวรรค์ซึ่งบริษัทเตรียมจะเสนอแบบบ้านต่อจากนี้
ขณะเดียวกัน บริษัทยังเตรียมเสนอแบบรับสร้างบ้านให้กับลูกค้าที่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อีก 2 หลัง ในเมืองเวียงจันทน์ โดยเบื้องต้น บริษัทจะรับงานก่อสร้างบ้านที่ราคาเกิน 50 ล้านบาท จากที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปเปิดสาขาภายใต้การร่วมทุนกับพันธมิตรค้าวัสดุในลาว ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าแล้ว 2 หลัง โดยหลังแรกอยู่ระหว่างการก่อสร้างมูลค่าก่อสร้างพร้อมตกแต่งภายในหลังละ 200 ล้านบาท ส่วนอีกรายยังอยู่ระหว่างสรุปแบบบ้านแต่คาดว่าจะสูงกว่า 200 ล้านบาท
นายสุรัตน์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดบ้านสร้างเองในปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาทต่อปี ในจำนวนนี้เป็นของบริษัทรับสร้างบ้าน 60% ที่เหลือเป็นของผู้รับเหมาทั่วไป ในขณะที่บ้านราคา 50 ล้านบาทขึ้นไปมีประมาณ 800 ล้านบาท โดยบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดรับสร้างบ้านในตลาดดังกล่าวประมาณ 50%
