ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตม.ภูเก็ต รวบหนุ่มชาวสวีเดนร่วมกับพวกตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ได้หลอกเงินชาวรัสเซียไปกว่า 20 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะเป็นนายหน้าซื้อบ้านหรูในจังหวัดภูเก็ต
พ.ต.ต.เทียนชัย ชมพู สว.ตม.จว.ภูเก็ต เปิดเผยว่า วานนี้ (29 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการนำโดย พ.ต.ท.สุบรรณ กรุดพันธ์ สว.ตม.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตม.ภูเก็ต ร่วมกันจับกุม Mr.Vladimir Antochvili (วลาดิเมีย อันโทชิลี) อายุ 29 ปี สัญชาติสวีเดน ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 578/2554 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2554 ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซ.รามคำแหง 52/2 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
พ.ต.ต.เทียนชัย กล่าวถึงการจับกุมว่า ผู้ต้องหาได้ร่วมกับแก๊งชาวรัสเซีย หลอกซื้อขายที่ดินแล้วยักยอกเงินจากผู้เสียหายมูลค่าหลายล้านบาท และได้สืบทราบว่า นายวลาดิเมีย อันโทชิลี ซึ่งเป็นบุคคลหนีหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต โดยได้หนีไปกบดานอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซ.รามคำแหง 52/2 กรุงเทพฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และได้สอบพนักงานของอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว พบว่า นายวลาดิเมีย อันโทชิลี ได้พักอาศัยอยู่จริง ทางเจ้าหน้าที่จึงให้พนักงานโทรศัพท์หานายวลาดิเมีย ให้มาพบบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ และได้ลงมาพบในที่สุด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ให้ นายวลาดิเมีย ดูหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ปรากฏว่า นายวลาดิเมีย เป็นตนเองจริง จึงได้ควบคุมตัวไปยัง สน.หัวหมาก ก่อนที่จะนำตัวลงมาดำเนินคดีที่สภ.ฉลอง ต.ฉลอง จ.ภูเก็ต ต่อไป
พ.ต.ต.เทียนชัย กล่าวต่ออีกว่า หลังจากผู้ต้องหาร่วมกับเพื่อนที่อยู่ระหว่างการหลบหนี เปิดบริษัทนายหน้ารับซื้อขายบ้านหรูในจังหวัดภูเก็ต เพื่อขายให้แก่พวกเศรษฐีชาวรัสเซียที่ต้องการมาใช้ชีวิตบั้นปลายในจังหวัดภูเก็ต จนกระทั่งมีผู้เสียหายชาวรัสเซียต้องการที่จะซื้อบ้านหรูในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต กว่า 10 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินเข้าบัญชี 3 ครั้ง และได้โอนไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 3 ล้านบาท และได้นำเงินที่ทางผู้เสียหายโอนทั้ง 2 ครั้งไปจ่ายให้แก่เจ้าของบ้าน และผู้ต้องหาได้เรียกเก็บค่านายหน้า 3 เปอร์เซ็นต์จากเจ้าของบ้าน จากนั้นผู้เสียหายได้โอนเงินครั้งสุดท้ายไปให้แก่ผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาไม่ได้นำเงินไปจ่ายให้แก่เจ้าของบ้าน โดยผู้ต้องหากับเพื่อนได้เชิดเงินค่าบ้านงวดสุดท้าย และค่านายหน้าหนีไปด้วย จึงทำให้การซื้อขายบ้านหลังดังกล่าวไม่สามารถซื้อขายกันได้ ส่งผลให้ผู้เสียหายสูญเสียเงินไปกว่า 10 ล้านบาท จากนั้นผู้เสียได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ต.ฉลอง จ.ภูเก็ต ในเดือนกันยายน 2554
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาร่วมกับเพื่อนที่หลบหนีอยู่ได้หลอกเงินชาวรัสเซียอีก 1 ราย เช่นเดียวกัน โดยสูญเสียเงินไปกว่า 12 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะเป็นนายหน้าซื้อบ้านตากอากาศในจังหวัดภูเก็ต ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นบุคคลมีหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 578/2554 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2554 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.ต.เทียนชัย ชมพู สว.ตม.จว.ภูเก็ต เปิดเผยว่า วานนี้ (29 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการนำโดย พ.ต.ท.สุบรรณ กรุดพันธ์ สว.ตม.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตม.ภูเก็ต ร่วมกันจับกุม Mr.Vladimir Antochvili (วลาดิเมีย อันโทชิลี) อายุ 29 ปี สัญชาติสวีเดน ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 578/2554 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2554 ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซ.รามคำแหง 52/2 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
พ.ต.ต.เทียนชัย กล่าวถึงการจับกุมว่า ผู้ต้องหาได้ร่วมกับแก๊งชาวรัสเซีย หลอกซื้อขายที่ดินแล้วยักยอกเงินจากผู้เสียหายมูลค่าหลายล้านบาท และได้สืบทราบว่า นายวลาดิเมีย อันโทชิลี ซึ่งเป็นบุคคลหนีหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต โดยได้หนีไปกบดานอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซ.รามคำแหง 52/2 กรุงเทพฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ และได้สอบพนักงานของอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว พบว่า นายวลาดิเมีย อันโทชิลี ได้พักอาศัยอยู่จริง ทางเจ้าหน้าที่จึงให้พนักงานโทรศัพท์หานายวลาดิเมีย ให้มาพบบริเวณหน้าเคาน์เตอร์ และได้ลงมาพบในที่สุด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ให้ นายวลาดิเมีย ดูหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ปรากฏว่า นายวลาดิเมีย เป็นตนเองจริง จึงได้ควบคุมตัวไปยัง สน.หัวหมาก ก่อนที่จะนำตัวลงมาดำเนินคดีที่สภ.ฉลอง ต.ฉลอง จ.ภูเก็ต ต่อไป
พ.ต.ต.เทียนชัย กล่าวต่ออีกว่า หลังจากผู้ต้องหาร่วมกับเพื่อนที่อยู่ระหว่างการหลบหนี เปิดบริษัทนายหน้ารับซื้อขายบ้านหรูในจังหวัดภูเก็ต เพื่อขายให้แก่พวกเศรษฐีชาวรัสเซียที่ต้องการมาใช้ชีวิตบั้นปลายในจังหวัดภูเก็ต จนกระทั่งมีผู้เสียหายชาวรัสเซียต้องการที่จะซื้อบ้านหรูในพื้นที่ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต กว่า 10 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายได้โอนเงินเข้าบัญชี 3 ครั้ง และได้โอนไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งละ 3 ล้านบาท และได้นำเงินที่ทางผู้เสียหายโอนทั้ง 2 ครั้งไปจ่ายให้แก่เจ้าของบ้าน และผู้ต้องหาได้เรียกเก็บค่านายหน้า 3 เปอร์เซ็นต์จากเจ้าของบ้าน จากนั้นผู้เสียหายได้โอนเงินครั้งสุดท้ายไปให้แก่ผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาไม่ได้นำเงินไปจ่ายให้แก่เจ้าของบ้าน โดยผู้ต้องหากับเพื่อนได้เชิดเงินค่าบ้านงวดสุดท้าย และค่านายหน้าหนีไปด้วย จึงทำให้การซื้อขายบ้านหลังดังกล่าวไม่สามารถซื้อขายกันได้ ส่งผลให้ผู้เสียหายสูญเสียเงินไปกว่า 10 ล้านบาท จากนั้นผู้เสียได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ต.ฉลอง จ.ภูเก็ต ในเดือนกันยายน 2554
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาร่วมกับเพื่อนที่หลบหนีอยู่ได้หลอกเงินชาวรัสเซียอีก 1 ราย เช่นเดียวกัน โดยสูญเสียเงินไปกว่า 12 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะเป็นนายหน้าซื้อบ้านตากอากาศในจังหวัดภูเก็ต ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นบุคคลมีหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 578/2554 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2554 ซึ่งต้องหากระทำความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป