เอเอฟพี - วันนี้ (23 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวลูกชายของ "โจเซฟ เอสตราดา" อดีตผู้นำฟิลิปปินส์ ซึ่งนับเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงรายที่สองที่ถูกจับกุมในช่วงเวลาไม่กี่วันมานี้ เกี่ยวกับคดีคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่
วุฒิสมาชิก โฮเซ่ "จิงกอย" เอสตราดา วัย 51 ปี ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากที่ถูก "ซานติกันบายัน" ศาลพิเศษที่ทำคดีเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นตั้งข้อหาพร้อมกับออกหมายจับ
"ผมไม่เคยยักยอกเงินของรัฐบาลไปเลย" เอสตราดา บอกกับนักข่าว พร้อมกับกล่าวว่านี่เป็นความพยายามของประธานาธิบดีเบนิโญ อาคิโน ที่กำลังเล่นเกมการเมืองเพื่อโค่นคู่แข่ง
"ในท้ายที่สุดแล้ว ผมจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผมให้ได้เห็นกัน ผมจะต่อสู้กับทุกข้อกล่าวหาของผมในชั้นศาล" เอสตราดา กล่าว
วุฒิสมาชิก เอสตราดา โดยสารไปกับรถตู้สีขาวโดยมีพ่อของเขา "โจเซฟ เอสตราดา" ขนาบข้างไปด้วย เพื่อเดินทางไปยังสถานีตำรวจ พร้อมกับมีบรรดาขบวนรถของสื่อมวลชนที่ขับตามไปเป็นแถวยาว
เอสตราดา ร่วมกับคนอื่นๆ อีก 54 คน ซึ่งมีทั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติ ทีมงานและเจ้าหน้าที่อื่นๆ ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินจำนวนหลายล้านเหรียญในหลายโครงการ โดยเอสตราดานั้นยักยอกเงิน 183 ล้านเปโซ (ประมาณ 109 ล้านบาท) จากกองทุนของรัฐบาลไปลงทุนในโครงการที่ไม่มีอยู่จริง
เขาถูกตั้งข้อหาร้ายแรงว่าเป็นพวก "ปล้นชาติ" จากการคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่ ซึ่งอาจจะทำให้เขาไม่ได้รับการประกันตัว และอาจจะต้องรับโทษจำคุกตลอดชีวิต อีกทั้งยังต้องเผชิญกับข้อหาอื่นอีก 11 ข้อหา จากการยักยอกเงิน
รามอน เรวิลา เป็นวุฒิสมาชิกอีกรายที่ถูกจับด้วยข้อหาเดียวกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ศาลเตรียมที่จะออกหมายจับวุฒิสมาชิกรายที่สาม "ฮวน ปองเซ เอนริเล" วัย 90 ปี นักการเมืองที่เคยเป็นผู้ดำเนินการใช้กฏอัยการศึกในยุคสมัยของประธานาธิบดี เฟอร์ดินาน มาร์กอส
คดีนี้ฉาวโฉ่ขึ้นมาหลังจากที่เมื่อปีที่แล้วมีนักธุรกิจหญิง จาเน็ต นาโปเลส ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนสมคบกับสมาชิกสภานิติบัญญัติ ดำเนินการยักยอกเงินกว่า 1 หมื่นล้านเปโซ (ประมาณ 7,300 ล้านบาท) จากกองทุนงบประมาณของรัฐบาล
ในตอนแรก นาโปเลส ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่หลังจากนั้นเธอก็ได้มอบรายชื่อสมาชิกสภานิติบัญญัติที่มีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่า 100 รายชื่อ เพื่อขอรับสิทธิ์เป็นพยานของรัฐ แต่คำขอของเธอถูกปฏิเสธ อีกทั้งยังถูกตั้งข้อหาปล้นชาติ
สองชื่อจากรายชื่อเหล่านั้น เป็นรัฐมนตรีชุดปัจจุบันของรัฐบาลอาคิโน แต่พวกเขาก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาพร้อมกับระบุว่า นาโปเลส พยายามที่จะให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงเพื่อเบี่ยงประเด็นความสนใจออกจากตัวเธอและบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้อง
ปัญหาคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นมาอย่างยาวนานในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยของฟิลิปปินส์ เป็นเหตุของปัญหาความยากจนที่เกิดขึ้นกับประชากรกว่า 100 ล้านคนในประเทศที่ตั้งอยู่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้
โจเซฟ เอสตราดา ผู้เป็นพ่อ เคยต้องพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีกลางคัน ด้วยปัญหาการคอร์รัปชั่นอย่างมโหฬารและไร้ความสามารถในการบริหารประเทศ ซึ่งในภายหลังได้ถูกตัดสินว่ามีความผิด แต่ได้รับการอภัยโทษ จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว เขาก็ยังได้รับเลือกให้เป็นนายกเทศมนตรีของกรุงมะนิลา โดยเขาได้ระบุว่า นี่เป็นเครื่องยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเขา