ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาแก๊งแชร์ลูกโซ่จากจีน เปิดตู้เซฟในบ้านพักหรูที่ภูเก็ต หลังถูกทางการจีนประสานตำรวจไทยจับกุมดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชนแบบแชร์ลูกโซ่ สร้างความเสียหายกว่า 9,000 ล้านบาท ทั้งที่ประเทศจีน และมาเลเซีย พบเพียงทองคำเล็กน้อย ขณะที่ทรัพย์สินทั้งบ้าน และที่ดิน มีมากกว่า 200 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบ้านหรู ส่วนเงินสดคาดยังอยู่ที่ผู้ร่วมขบวนการที่ยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ
จากกรณีตำรวจจีนได้ประสานมายังตำรวจไทยให้ช่วยจับกุมผู้ต้องหาร่วมขบวนการแชร์ลูกโซ่ หรือข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่ทั้งคนจีน และคนมาเลเซียมหาศาล เฉพาะประเทศจีน มีสมาชิกกว่า 100,000 คน สร้างความเสียหายมาแล้วกว่า 6,000 ล้านบาท ส่วนที่ประเทศมาเลเซีย มีสมาชิกกว่า 80,000 คน สร้างความเสียหายกว่า 4,000 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาหนีหมายจับจากประเทศจีนมากบดานที่ประเทศไทย มีการปลอมแปลงบัตรประชาชนไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้น ก็ไปบวชที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต และได้มีการบริจาคเงินให้แก่ทางวัด จำนวน 34 ล้านบาท ในนาม นาย Zhang Jian หรืองจางเจี้ยน จนเป็นข่าวดังไปทั่ว และจากการสืบสวนก็ทราบว่า แก๊งดังกล่าวมากบดานที่ภูเก็ต และเตรียมมาเปิดบริษัทที่ภูเก็ต ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการขอจัดตั้งบริษัทแต่ยังไม่ได้รับอนุญาต
โดยวันนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมของกลางสกุลเงินเยน โฉนดที่ดิน รวมมูลค่ากว่า 240 ล้านบาท แถลงข่าวที่กรุงเทพฯ แล้ว ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 ประกอบด้วย นายสุรินทร์ โสภณสุขสันต์ หรือนาย Geng Lian Bao ซึ่งจับกุมได้ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขณะที่ นายศุภชัย รุจธร หรือนาย Song Miqiu หรือนาย Zhang Jian ถูกจับกุมที่กรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการแถลงข่าวเสร็จสิ้น พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รองผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ นปพ.ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เดินทางกลับมายังภูเก็ตทางเครื่องบิน และถึงสนามบินภูเก็ตในเวลาประมาณ 16.50 น.วันนี้ (28 ต.ค.) เพื่อดำเนินคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังออกจากสนามบินภูเก็ตได้นำตัวทั้ง 3 เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เพื่อลงบันทึก ต่อมา พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รองผู้บังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.พีระยุทธ การเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.เศียร แก้วทอง พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้วฉ้วน รอง ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.ธรรมสัน บุญทรง สารวัตรสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ นปพ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ได้นำตัว นายศุภชัย รุจธร หรือนาย Song Miqiu หรือนาย Zhang Jian ไปยังบ้านเลขที่ 35/23 ม. 4 บ้านบางคณฑี ซอยกิ่งมัสยิด 2 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ซึ่งเป็นบ้านของ นายศุภชัย หรือนาย Song Miqiu หรือนาย Zhang Jian เพื่อเปิดตู้เซฟที่อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เมืองเข้าไปถึงกับต้องตะลึงกับความใหญ่โตของบ้าน ที่เป็นบ้านหรูลักษณะเหมือนวิลล่า ทรงไทย ขนาดใหญ่ 1 หลัง และมีบ้านหลังเล็กๆ ในบริเวณเดียวกันอีก 2 หลัง มีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง สร้างอยู่ภายในพื้นที่มากกว่า 1 ไร่ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบตู้เซฟเล็กซึ่งอยู่ในตู้เสื้อผ้า และตู้เชฟขนาดใหญ่เท่าๆ กับตู้เย็น พบว่าภายในตู้มีเพียงทองรูปพรรณแบบกำไล เพียง 1 อัน ส่วนทรัพย์สินอย่างอื่น หรือเงินสดไม่มีเก็บไว้ในตู้เซฟดังกล่าวต่อย่างใด
พ.ต.อ.สมาน กล่าวภายหลังนำผู้ต้องหาตรวจสอบตู้เซฟภายในบ้านพัก ว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 รายที่จับกุมได้ในครั้งนี้ เป็นผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับจากทางการจีนในข้อหาหลอกลวงประชาชน ซึ่งดำเนินการในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ที่ทำการเป็นขบวนการ ที่สร้างความเสียหายให้แก่ผู้ที่ถูกหลอกลวงมูลค่ามหาศาล ซึ่งหลังจากก่อเหตุที่ประเทศจีน และถูกทางการจีนออกหมายจับ ก็หลบหนีไปอยู่ประเทศมาเลเซีย และร่วมกันหลอกลวงประชาชนที่ประเทศมาเลเซีย จนถูกออกหมายจับที่ประเทศมาเลเซีย หลังจากนั้น หนีมาอยู่ที่ภูเก็ต ซึ่งในส่วนของจังหวัดภูเก็ต จากการตรวจสอบพบว่ายังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น และพบว่าผู้ต้องหากำลังอยู่ระหว่างการขอจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจ แต่ยังไม่ได้มีการอนุญาตแต่อย่างใด
พ.ต.อ.สมาน ยังได้กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สินของ นายศุภชัย รุจธร หรือนาย Song Miqiu หรือนาย Zhang Jian และเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นในลักษณะของการฟอกเงินมากกว่าการเก็บเงินสดไว้ พบว่าขณะนี้มีมากกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดิน และบ้าน โดยซื้อบ้านในพื้นที่บ้านบางคณฑี ต.ราไวย์ จำนวน 4 หลัง ในพื้นที่ตัวเมืองภูเก็ตที่เป็นโครงการหรูตั้งอยู่บนเนินเขาอีก จำนวน 2 หลัง และในพื้นที่ ต.ฉลอง ที่เป็นโครงการหรูเป็นที่รู้จักของคนภูเก็ต จำนวน 1 หลัง ส่วนเงินสดคิดว่าทางผู้ต้องหายังไม่นำเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต น่าจะเก็บไว้กับเพื่อนร่วมขบวนการที่ขณะนี้ยังอยู่ในกรุงเทพฯ
ส่วนการดำเนินการต่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนั้น ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตจะดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาฐานปลอมแปลงเอกสาร หลังจากนั้น จะประสานกับทางการจีนเพื่อนำตัวไปดำเนินคดีที่ประเทศจีนต่อไป เนื่องจากในภูเก็ตยังไม่ปรากฏความเสียหายเกิดขึ้นแต่อย่างใด