พลัสฯ เผยผลการสำรวจที่อยู่อาศัยกลุ่มบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ครึ่งปีแรก พบผู้ประกอบการ ผู้บริโภคยังระมัดระวังการลงทุน ระบุที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวขายดี อยู่ที่ระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท และ 20 ล้านบาทขึ้นไป ขณะกลุ่มทาวน์เฮาส์ ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไปเป็นที่นิยมของผู้ซื้อ ชี้กรุงเทพฯ ตอนใต้ทำเลยอดนิยม ยอดขายเติบโตสูงสุด เหตุเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ และมีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และจะเติบโตดีไปจนถึงช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนสถานการณ์บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ในครึ่งปีแรกที่มีการชะลอตัวลง นั่นก็เป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และลูกค้าผู้บริโภคต่างก็เพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน ตลอดจนหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น และการเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์
ทั้งนี้ จากการสำรวจที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบ (บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์) ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 พบว่า ตลาดบ้านเดี่ยวมีปริมาณซัปพลายใหม่เพิ่มขึ้น 8% ขณะที่ซัปพลายที่อยู่อาศัยโดยรวมเพิ่มขึ้น 1% ส่วนยอดขายบ้านเดี่ยวครึ่งปีแรกลดลง 31% จากช่วงเดียวกันของปี 56 โดยมียอดขายอยู่ที่ 5,365 ยูนิต ซึ่งเป็นยอดขายลดลงเกือบทุกทำเล ยกเว้นโซนกรุงเทพฯใต้ ซึ่งมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 51% โดยมียอดขาย 871 ยูนิต เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ มีแหล่งงานขนาดใหญ่ เส้นทางการคมนาคมที่สะดวก เกิดการลงทุนด้านศูนย์การค้า และห้างโมเดิร์นเทรด หากพิจารณาจากราคาบ้านเดี่ยวพบว่า อุปทานส่วนใหญ่เสนอขายในกลุ่มราคา 3.00-4.99 ล้านบาทมากที่สุด รองลงมาคือ กลุ่มราคา 5.00-6.99 ล้านบาท ต่อมาคือ ราคา 7.00-9.99 ล้านบาท ต่ำกว่า 3 ล้าน และ 20 ล้านบาทขึ้นไป อย่างไรก็ตาม พบว่าอุปทานเติบโตใน 2 ช่วงราคา คือ ระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท และระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป
สำหรับตลาดทาวน์เฮาส์ ในช่วงครึ่งปีแรกซัปพลายใหม่ลดลง 16% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนมาอยู่ที่ 8,632 ยูนิต ซึ่งอุปทานใหม่ที่เข้าสู่ตลาดส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชั้นนอก ขณะที่ดีมานด์โดยรวมลดลง 32% มาอยู่ที่ 6,895 ยูนิต ส่วนมากลดลงทางทิศเหนือ รองลงมาเป็นทิศตะวันออก และสุดท้ายคือ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตาม แม้ดีมานด์โดยรวมจะลดลง แต่กลับพบดีมานด์ทางทิศใต้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว หรือกว่า 110% โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการทาวน์ อเวนิว ฟอร์เต้ และโครงการทาวน์ อเวนิว โคโคส ที่ยอดขายเพิ่มสูงขึ้นถึง 1,000% และ 200% ตามลำดับ ส่วนทางด้านระดับราคานั้น ซัปพลายส่วนใหญ่ยังเน้นเสนอขายที่ระดับราคา 1-3 ล้านบาท 67% รองลงมาเป็นระดับราคา 3-5 ล้านบาท 22% ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป 10% และราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท 1% โดยพบว่าระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไปเป็นที่นิยมของผู้ซื้อ
“พลัสฯ คาดว่า ในช่วงครึ่งปีหลังตลาดบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์จะกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สังเกตจากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น เห็นสัญญาณความเชื่อมั่นจากผู้บริโภครายย่อยกลับคืนมามากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณดีต่อภาคอสังหาฯ เริ่มขยับตัว และลงทุนเพิ่มเติม อีกทั้งปัจจัยบวกจากแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.4 ล้านล้าน ซึ่งจะมีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้”