เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ รับปี 57 เปิดโครงการใหม่ไม่ทันตามแผน 7 โครงการ เหตุครึ่งปีแรกตลาดทรุดหนัก คาดทั้งปีเปิดได้แค่ 3-4 โครงการที่เหลือเลื่อนเปิดปี58 คาดทั้งปียอดขาย 2,000-3,000 ล้านบาท เผยขายออฟฟิศอีควิน๊อกซ์ พหล-วิภา ยกตึก 2,050 ล้านบาท ให้ " WHA" หนุนรายได้ปี 57ทะลุ 7,000 ล้านบาท ล่าสุดเปิดตัว”เอ็ม จตุจักร” คอนโดฯ 800 ยูนิต มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท
นางสาว เพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองส่งผลให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่น และชะลอการซื้อที่อยู่อาศัย ทำให้บริษัทชะลอการเปิดโครงการใหม่ออกไป จากเดิมที่มีแผนเปิดขายในครึ่งปีแรก 3-4 โครงการ มูลค่า ประมาณ 3,000 ล้านบาทจากแผนทั่งปีเปิด 7 โครงการใหม่
ปรากฎว่าครึ่งปีแรกเปิดได้เพียง 1 โครงการเท่านั้น คือโครงการ “ Maestro 02 ” ร่วมฤดี เป็นคอนโดฯ สูง 8 ชั้น จำนวน 100 กว่ายูนิต ราคา 1.7 แสนบาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพบว่ามียอดขายแล้วถึง 60%
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาสถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นและกลับมาซื้อบ้าน ทำให้บริษัทตัดสินใจเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ แต่คาดว่าจะสามารถเปิดได้เพียง 3-4 โครงการเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเลื่อนไปเปิดในปีหน้าแทน
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกสามารถทำได้เพียง 500 ล้านบาท จากเป้าหมายทั่งปี 2,000-3,000 ล้านบาท จากที่ในปี 56 มียอดขาย 3,000 ล้านบาท ขณะที่มียอดรับรู้รายได้ ณ ปัจจุบันที่จำนวน 13,000 ล้านบาท
ขณะที่ยอดรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกมีจำนวน 2,000 ล้านบาท โดยทั้งปีคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ 7,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากรายได้ปกติ 5,000 ล้านบาทและรายได้พิเศษจากการขายอาคารสำนักงาน อีควิน๊อกซ์ ให้แก่ WHA มูลค่า 2,050 ล้านบาท
สำหรับในครึ่งปีหลังมองว่าสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มนิ่ง ส่งผลให้ทุกโครงการมียอดขายดีขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ “ M Jatujak ” (เอ็ม จตุจักร) คอนโดมิเนียมไฮไรส์โครงการใหญ่ที่สุดของปีนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ มีจำนวน 2 อาคาร ได้แก่ อาคาร A สูง 32 ชั้น จำนวน 459 ยูนิต และอาคาร B สูง 34 ชั้น จำนวน 405ยูนิต ขนาด 28-118 ยูนิต ราคา 3.5-25 ล้านบาท หรือ 1.2 แสนบาท/ตารางเมตร รวมทั้งสิ้นกว่า 800 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการกว่า 4,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะเปิดพรีเซลล์ M Jatujak ในวันที่ 25 – 30กรกฎาคมนี้ ณ ชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว คาดในวันงานจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 50% และสามารถปิดการขายได้ประมาณไตรมาส1/2557
“ เราเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ด้วยการเจริญเติบโตของเมืองทำให้ย่านซีบีดีขยายตัวออกมาจากสีลม สาทร มาสู่รัชดาภิเษก อโศก และล่าสุดได้ขยายมาทำเลพหลโยธิน ลาดพร้าว มากขึ้น ถือเป็น New CBD โดยมีการกระการตอบรับที่ดีตั้งแต่ยังไม่เปิดการขาย มีลูกค้าโทรเข้ามาสอบถามป็นจำนวนมาก คาดว่าจนถึงวันเปิดขายจะมียอดโทรเข้ามาอีก 30% ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าของบริษัทที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและซื้อเพื่อการลงทุน ”
สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบันมองว่ายังมีอัตราการเติบโตที่ดี พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ดีมานด์ในหลายช่วงมีการยอมรับในการใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดมิเนียมมากขึ้น จึงเชื่อว่าตลาดคอนโดฯยังไปได้ดี
นางสาว เพชรลดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ประมาณปี 2558-2559 มีแผนที่จะนำอาคารสำนักงาน ย่านทองหล่อ มูลค่า1,000 ล้านบาท และโรงแรมที่พัทยา มูลค่า1,000 ล้านบาท เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะสามารถสรุปข้อมูลได้ในไตรมาส3 นี้.
นางสาว เพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองส่งผลให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่น และชะลอการซื้อที่อยู่อาศัย ทำให้บริษัทชะลอการเปิดโครงการใหม่ออกไป จากเดิมที่มีแผนเปิดขายในครึ่งปีแรก 3-4 โครงการ มูลค่า ประมาณ 3,000 ล้านบาทจากแผนทั่งปีเปิด 7 โครงการใหม่
ปรากฎว่าครึ่งปีแรกเปิดได้เพียง 1 โครงการเท่านั้น คือโครงการ “ Maestro 02 ” ร่วมฤดี เป็นคอนโดฯ สูง 8 ชั้น จำนวน 100 กว่ายูนิต ราคา 1.7 แสนบาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาพบว่ามียอดขายแล้วถึง 60%
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาสถานการณ์ต่างๆ เริ่มดีขึ้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นและกลับมาซื้อบ้าน ทำให้บริษัทตัดสินใจเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ แต่คาดว่าจะสามารถเปิดได้เพียง 3-4 โครงการเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเลื่อนไปเปิดในปีหน้าแทน
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกสามารถทำได้เพียง 500 ล้านบาท จากเป้าหมายทั่งปี 2,000-3,000 ล้านบาท จากที่ในปี 56 มียอดขาย 3,000 ล้านบาท ขณะที่มียอดรับรู้รายได้ ณ ปัจจุบันที่จำนวน 13,000 ล้านบาท
ขณะที่ยอดรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกมีจำนวน 2,000 ล้านบาท โดยทั้งปีคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ 7,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากรายได้ปกติ 5,000 ล้านบาทและรายได้พิเศษจากการขายอาคารสำนักงาน อีควิน๊อกซ์ ให้แก่ WHA มูลค่า 2,050 ล้านบาท
สำหรับในครึ่งปีหลังมองว่าสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มนิ่ง ส่งผลให้ทุกโครงการมียอดขายดีขึ้น ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ “ M Jatujak ” (เอ็ม จตุจักร) คอนโดมิเนียมไฮไรส์โครงการใหญ่ที่สุดของปีนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ มีจำนวน 2 อาคาร ได้แก่ อาคาร A สูง 32 ชั้น จำนวน 459 ยูนิต และอาคาร B สูง 34 ชั้น จำนวน 405ยูนิต ขนาด 28-118 ยูนิต ราคา 3.5-25 ล้านบาท หรือ 1.2 แสนบาท/ตารางเมตร รวมทั้งสิ้นกว่า 800 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการกว่า 4,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะเปิดพรีเซลล์ M Jatujak ในวันที่ 25 – 30กรกฎาคมนี้ ณ ชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว คาดในวันงานจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 50% และสามารถปิดการขายได้ประมาณไตรมาส1/2557
“ เราเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ด้วยการเจริญเติบโตของเมืองทำให้ย่านซีบีดีขยายตัวออกมาจากสีลม สาทร มาสู่รัชดาภิเษก อโศก และล่าสุดได้ขยายมาทำเลพหลโยธิน ลาดพร้าว มากขึ้น ถือเป็น New CBD โดยมีการกระการตอบรับที่ดีตั้งแต่ยังไม่เปิดการขาย มีลูกค้าโทรเข้ามาสอบถามป็นจำนวนมาก คาดว่าจนถึงวันเปิดขายจะมียอดโทรเข้ามาอีก 30% ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าของบริษัทที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและซื้อเพื่อการลงทุน ”
สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบันมองว่ายังมีอัตราการเติบโตที่ดี พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ดีมานด์ในหลายช่วงมีการยอมรับในการใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดมิเนียมมากขึ้น จึงเชื่อว่าตลาดคอนโดฯยังไปได้ดี
นางสาว เพชรลดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ประมาณปี 2558-2559 มีแผนที่จะนำอาคารสำนักงาน ย่านทองหล่อ มูลค่า1,000 ล้านบาท และโรงแรมที่พัทยา มูลค่า1,000 ล้านบาท เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะสามารถสรุปข้อมูลได้ในไตรมาส3 นี้.