“ประพันธ์” ทุ่มงบลงทุน 980 ล้านบาท เปิดโครงการผลิตน้ำเชื่อมและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ระดับพรีเมียม กำลังการผลิตน้ำเชื่อมได้ 4 แสนกิโลกรัมต่อวัน และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ 5 แสนกิโลกรัมต่อวัน คาดเริ่มขายได้กลางปีหน้า เผยเป็นโรงงานมาตรฐานเดียวกันกับ บริษัท นิสชิน ชูการ์ ประเทศญี่ปุ่น
นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์คอร์ปอเรชั่น หรือ KTIS กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ทำพิธีเปิด โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำเชื่อม (Liquid Sucrose) และโครงการผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ (Super Refined Sugar) ที่บริเวณโรงงานน้ำตาลของเคทิส จ.นครสวรรค์แล้ว โดยโครงการดังกล่าว เป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นเพิ่มทุนเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 980 ล้านบาท มีกำลังการผลิตน้ำเชื่อม 400 ตันต่อวัน และกำลังการผลิตน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ 500 ตันต่อวัน ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างอาคารโรงงานและสั่งซื้อเครื่องจักร โดยคาดว่าจะสามารถติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จ และเริ่มผลิตน้ำเชื่อมออกจำหน่ายได้ในช่วงกลางปี 2558 โดยโครงการดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากบริษัท นิสชิน ชูการ์ และบริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของนิสชิน ชูการ์ และเป็นผู้ถือหุ้นของเคทิสด้วย
“นิสชิน ชูการ์ ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยออกแบบและกำหนดสเปกในการเลือกซื้อเครื่องจักรต่างๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานชั้นสูง โดยใช้มาตรฐานของญี่ปุ่นเป็นหลัก โดยโรงงานนี้จะเป็นโรงงานที่ทันสมัย และมีความครบถ้วนในเรื่องของประสิทธิภาพและคุณภาพ เนื่องจาก นิสชิน ชูการ์ มีโรงงานในลักษณะเดียวกัน ที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว ผู้บริหารกลุ่มเคทิสก็เคยไปเยี่ยมชม และเห็นแล้วว่าคุณภาพน้ำเชื่อมและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษที่ออกมานั้นดีมาก ซึ่งน้ำเชื่อมที่บริษัทฯจะผลิตจะมีระดับความเข้มข้นประมาณร้อยละ 66.5 - 67.5 บริกซ์ และเพื่อให้การผลิตน้ำเชื่อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงจะผลิตควบคู่ไปกับน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษที่มีค่าสีระหว่าง 15 ถึง 25 ICUMSA เหมาะสำหรับนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการวัตถุดิบที่มีความบริสุทธิ์สูง”
อย่างไรก็ดี สำหรับตลาดน้ำเชื่อมของบริษัทฯนั้นจะผลิตเพื่อรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมก่อน เนื่องจากลูกค้าน้ำตาลทรายของบริษัทฯ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ทางด้านอาหารและเครื่องดื่ม ก็มีความต้องการใช้น้ำเชื่อมในปริมาณที่มากพอจะรองรับกำลังการผลิตทั้งหมดได้ ส่วนน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ มีตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ประเทศในแถบตะวันออกกลาง เกาหลี และญี่ปุ่น
“ผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทถือเป็นเกรดพรีเมียม เป็นน้ำตาลและน้ำเชื่อมที่ได้มีคุณภาพสูงเกรดพิเศษ จึงเป็นที่ต้องการของลูกค้าภาคอุตสาหกรรมและต้องรองรับกลุ่มนี้ก่อน ส่วนตลาดค้าปลีกนั้นจะเข้าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม โดยน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษที่จะขายในตลาดต่างประเทศนั้นไม่น่าห่วง เพราะซูมิโตโมฯ เป็นบริษัทค้าน้ำตาลยักษ์ใหญ่ของโลก สามารถที่จะส่งออกไปขายได้ทั่วโลก ซึ่งรายได้จากโครงการนี้จะเป็นเท่าไรนั้น ต้องดูราคาน้ำตาลในตลาดโลกประกอบด้วยจึงจะประเมินได้”
ขณะที่นายโคจิ โมรินากะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิสชิน ชูการ์ กล่าวว่า ด้วยอุปสงค์และอุปทานของตลาดในภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันสูงและประเทศไทยก็เป็นประเทศเดียวที่ส่งออกน้ำตาล เพื่อป้อนให้กับตลาดทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนซึ่งมีความต้องการบริโภคน้ำตาลเพิ่มสูงขึ้น ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลในภูมิภาคนี้ เราจึงต้องการที่จะสนับสนุนเคทิสให้เป็นบริษัทชั้นนำทางด้านการผลิตน้ำตาลทรายและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง หน้าที่หลักของเราคือช่วยขยายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน และทางนิสชิน ชูการ์ ก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆที่ช่วยเพิ่มความหลากหลายและแตกต่าง รวมทั้งเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของกลุ่มเคทิส
“ปัจจุบัน นั้นอุตสาหกรรมน้ำตาลไม่ได้หยุดอยู่แค่น้ำตาลทราย แต่ยังมีผลิตภัณฑ์พลอยได้ เช่น เอทานอล เยื่อกระดาษ และพลังงานไฟฟ้า จะเห็นได้ว่าทุกๆส่วนของอ้อยและสิ่งที่เหลือในกระบวนการผลิตน้ำตาลสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโมลาสชานอ้อย กากตะกอน และน้ำกากส่า ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มเคทิสได้อีกมาก เรื่องของการผลิตน้ำเชื่อมและน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษนี้เป็นแค่ความร่วมมือระยะที่หนึ่งเท่านั้น เราหวังว่าในปีหน้าจะมีความร่วมมือในระยะที่ 2-3 ต่อไป”